xs
xsm
sm
md
lg

“ดัชมิลล์” ลุยไฟตลาดกาแฟ ผนึก “ดาวคอฟฟี่-เกาหลี” เร่งผลิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “กลุ่มดัชมิลล์” ทุ่มเวลา 3 ปีศึกษาตลาดกาแฟไทย ก่อนเปิดเซกเมนต์ใหม่กาแฟ 3 in 1 และกาแฟคั่วบดชงสำเร็จในถ้วยพร้อมดื่ม “อาราบัส” สายพันธุ์อะราบิกาแท้ 100% เจาะกลุ่มพรีเมียม ทุ่มงบฯ 200 ล้านบาททำการตลาดครบวงจร พร้อมดึง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” เป็นพรีเซ็นเตอร์ หวังรายได้ปีแรก 1.5 พันล้านบาทจากตลาดรวม 3.1 หมื่นล้านบาท ก่อนบุกตลาดเออีซีใน 3-5 ปี

นายธีรชัย เลาก่อสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจใหม่และธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการศึกษาตลาดกาแฟในประเทศไทยพบว่ามีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กาแฟ 3 in 1 มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 48.5% กาแฟพร้อมดื่ม มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วน 32% กาแฟผงสำเร็จ มูลค่า 4 พันล้านบาท สัดส่วน 13% และกาแฟฟังก์ชันนัล 3 in 1 มูลค่า 2 พันล้านบาท สัดส่วน 6.5%

ในช่วงที่ผ่านมาตลาดกาแฟค่อนข้างนิ่งและไม่มีผู้ประกอบการรายใดนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาดมากนักนอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ๆ ขณะที่ตลาดกาแฟ 3 in 1 ซึ่งเป็นเซกเมนต์ใหญ่สุดของตลาดก็มีผู้ประกอบการรายใหญ่ครองตลาดมานาน ส่งผลให้การเข้ามาของกาแฟสดทำให้ตลาดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น

“กลุ่มดัชมิลล์” ใช้เวลาประมาณ 3 ปีในการศึกษาตลาดกาแฟรวมจนพบว่ามีอัตราเติบโตเฉลี่ยมาอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 3.5% ขณะที่ตลาดกาแฟ 3 in 1 มีการเติบโตถึง 8% จึงเห็นโอกาสในการเจาะเซกเมนต์ตลาดกาแฟในช่องทางใหม่ โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์กาแฟ 3 in 1 ในกลุ่มพรีเมียม พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมใหม่คือ “กาแฟคั่วบดชงสำเร็จในถ้วยพร้อมดื่ม” (Chilled Cup Coffee) เป็นรายแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “อาราบัส” (ARABUS) ผลิตจากกาแฟสายพันธุ์อะราบิกาแท้ 100% ซึ่งถือเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุดและมีผู้บริโภคทั่วโลกนิยมดื่มมากกว่า 80%
“ธีรชัย เลาก่อสกุล” ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจใหม่และธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด
นายธีรชัยกล่าวอีกว่า ผลิตภัณฑ์กาแฟ “อาราบัส” นำเข้าวัตถุดิบหลักจากประเทศบราซิลและบางส่วนจากประเทศเอธิโอเปีย โดยในส่วนของกาแฟ 3 in 1 ได้มอบหมายให้ บริษัท ดาว คอฟฟี่ จำกัด ประเทศลาว เป็นผู้ผลิตในลักษณะ OEM เช่นเดียวกับกาแฟคั่วบดชงสำเร็จในถ้วยพร้อมดื่มที่มอบหมายให้บริษัทในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์กาแฟถ้วยพร้อมดื่ม

“การทำตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟมีความใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทฯ จึงคาดว่าในปีแรกจะสามารถทำรายได้เป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของรายได้รวมซึ่งมีประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2557 โดยมีเป้าหมายยอดขาย 1.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟ 3 in 1 ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือ 10% จากตลาดรวมและตลาดกาแฟคั่วบดชงสำเร็จในถ้วยพร้อมดื่ม 500 ล้านบาท หรือประมาณ 5% จากตลาดรวม”

บริษัทฯ ใช้งบประมาณการตลาด 200 ล้านบาทในการทำตลาดแบบ 360 องศาครอบคลุมทุกด้านเพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคในวงกว้าง โดยมี “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ทั้งนักเรียน นักศึกษา และหนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องการสินค้าเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยจะเน้นการกระจายสินค้าผ่านจุดจำหน่ายของบริษัทฯ 3 แสนจุดทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางโมเดิร์นเทรด ทั้งร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต และร้านค้าทั่วไป เน้นสัดส่วนกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ 70% ส่วนอีก 30% เป็นจังหวัดอื่นๆ โดยเริ่มทำตลาดตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา

“หลังจากทำตลาดในประเทศได้ตามเป้าหมายในระยะเวลา 3-5 ปีแล้ว บริษัทฯ มีแผนเปิดตลาดเออีซีเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นประเทศที่กลุ่มผลิตภัณฑ์นมของดัชมิลล์ได้เริ่มทำตลาดมาแล้วประมาณ 3-5 ปีในประเทศพม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์” นายธีรชัยกล่าวในที่สุด




กำลังโหลดความคิดเห็น