“พาณิชย์” ผ่าทางตัน ยอมสายเรือขึ้นค่า THC นิดหน่อยหลังขอขึ้นสุดโหดจนผู้ส่งออกต้องร้องเรียนเข้ามาให้ช่วย และได้สั่งเบรกไปก่อนหน้านี้ 60 วัน เผยอัตราใหม่ให้เริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย.นี้เฉพาะสายเรือเอเชีย ส่วนอเมริกา-ยุโรปใช้อัตราเดิม หากไม่ยอมก็ให้ใช้อัตราเดิม และเตรียมชงเข้าบอร์ดแข่งขันเล่นงาน ด้านสภาผู้ส่งออกฯ ไม่ยอมให้ปรับขึ้น
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ กรมการค้าภายใน การท่าเรือแห่งประเทศไทย สายเดินเรือ ตัวแทนสายเรือ สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอว่า ที่ประชุมร่วมกันได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะให้มีการปรับขึ้นค่าภาระหน้าท่า หรือค่า THC (เทอร์มินอล แฮนด์ลิ่ง ชาร์จ) ขนาดตู้ 20 ฟุตจาก 2,600 บาท เป็น 2,820 บาท และขนาดตู้ 40 ฟุต จาก 3,900 บาท เป็น 4,449 บาท ให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย. 2558 โดยจะมีผลเฉพาะเส้นทางเรือเอเชียเท่านั้น ส่วนสายเรืออเมริกาและยุโรปยังคงใช้อัตราเดิม
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย กรมฯ ได้จัดตั้งอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าภาระหน้าท่าใหม่ โดยจะเชิญนักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) มาร่วมพิจารณาถึงอัตราที่เป็นธรรม หลังจากนั้นจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะมีการปรับราคาอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นบริษัทเดินเรือยังไม่พอใจเกี่ยวกับอัตราที่คณะทำงานร่วมกำหนดให้เก็บเพิ่มขึ้น และขอเวลาในการแจ้งบริษัทต้นสังกัดที่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ และจะแจ้งกลับมาภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งหากสายเดินเรือไม่ยอมรับเงื่อนไขใหม่ก็จะให้กลับไปเก็บในอัตราเดิม และในเดือน มี.ค. 2558 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่มี รมว.พาณิชย์เป็นประธาน จะมีการประชุมและนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม โดยอาจให้มีการนำประเด็นกฎหมายการแข่งขันทางการค้ามาใช้ในกรณีดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอ และสมาคมที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากการที่ทางผู้ประกอบการสายเรือ ตัวแทนสายเรือจะปรับเพิ่มอัตราเรียกเก็บค่า THC ใหม่ จากอัตราเดิม 2,600 บาท เป็น 4,400 บาทต่อตู้ขนาด 20 ฟุต และ 3,900 เป็น 6,800 บาทต่อตู้ขนาด 40 ฟุต โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 ซึ่งจากข้อร้องเรียนดังกล่าว กรมฯ ได้ขอให้ตรึงราคาไปก่อน 60 วัน และสิ้นสุดระยะเวลาที่ตรึงเวลาในสิ้นเดือน ก.พ. 2558
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้ปรับขึ้นราคาค่าภาระหน้าท่า และสภาผู้ส่งออกฯ จะแถลงจุดยืนอีกครั้งในวันที่ 2 มี.ค.นี้ โดยยืนยันว่าสายเดินเรือไม่มีเหตุผลที่จะปรับขึ้นราคา และหากเอกชนรายใดเห็นชอบให้สายเดินเรือปรับขึ้นราคาก็ให้เป็นไปตามความสมัครใจ แต่ในส่วนของสภาผู้ส่งออกฯ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 2,300 ราย จะไม่ยอมรับอัตราดังกล่าว และขอให้กรมการค้าภายในแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการ และควรนำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อ รมว.พาณิชย์เพื่อชี้ขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมร่วม 3 ฝ่ายภาคเอกชน คือ สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอ ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นของอัตราค่าภาระหน้าท่า โดยสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอยอมรับเงื่อนไขในที่ประชุม ส่วนสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยยังยืนยันว่าทางสายเดินเรือไม่ควรเก็บอัตราค่าภาระหน้าท่าเพิ่ม ทั้งนี้ 2 สมาคมยอมรับรายการค่าใช้จ่ายบางรายการที่เกิดขึ้นตามที่สายเรือมีการจ่ายให้การท่าเรือจริงเท่านั้น