ปตท.ส่งสัญญาณเตือนผู้ใช้น้ำมัน พร้อมรับมือราคาขายปลีกน้ำมันจ่อขึ้นในช่วงนี้หลังราคาตลาดโลกดีดขึ้นต่อเนื่อง พร้อมทั้งเดินหน้าดัน “GPSC-SPRC” เข้าตลาดหุ้นไทย หลังขายทิ้งบางจากฯ ทั้งหมด
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศมีโอกาสขยับขึ้นอีก หลังจากได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกกลุ่มแก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์/ลิตรวันที่ 4 ก.พ.นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากการลดกำลังการผลิตในสหรัฐฯ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเมื่อวันที่ 3 ก.พ.อยู่ที่ 52.96 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขึ้น 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มีผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ขยับขึ้นตาม 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“ใน 1 อาทิตย์ราคาน้ำมันขึ้นไปแล้ว 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลจากเดิม 40 เหรียญสหรัฐ เท่ากับขึ้นมาแล้ว 25% ซึ่งปกติราคาน้ำมันขึ้น 4 เหรียญ/บาร์เรล ราคาขายน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 บาท/ลิตร โดยทิศทางราคาน้ำมันในช่วงนี้ยังไม่แน่นอน”
นายไพรินทร์กล่าวถึงความคืบหน้าการนำบริษัทสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้แก้ไขสัญญาโรงกลั่นฯ เพื่อให้บริษัทดังกล่าวสามารถเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ได้ คาดว่าจะเข้าตลาดหุ้นได้ภายใน 6 เดือน โดย ปตท.พร้อมที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่ 36% ออกทั้งหมดถ้าสภาพตลาดหุ้นดี
นอกจากนี้ ปตท.ยังมีแผนจะนำบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทดังกล่าวได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ก็น่าจะเข้าตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1/2558
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา บอร์ด ปตท.มีมติรับข้อเสนอจากกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ที่เสนอขอซื้อหุ้นในบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จำนวน 210 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ15.25 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของบางจาก โดยมอบหมายให้ฝ่ายจัดการดำเนินการในรายละเอียดและขั้นตอนต่อไป ซึ่งรวมถึงการดำเนินการขายหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดในบางจากด้วย
ทั้งนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งสามารถถือหุ้นบางจากได้ไม่เกิน 25% มิฉะนั้นจะติดเงื่อนไขต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด ที่ผ่านมากองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งก็ไม่ได้ถือหุ้นบางจากอยู่ และสัดส่วนหุ้นขายให้นั้นก็เป็นสัดส่วนหุ้นตามที่กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง เป็นผู้เสนอมา
ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในช่วงต้นปีนี้ ปตท.ไม่ได้มีการพิจารณาปรับลดงบการลงทุนของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่าหลายธุรกิจในกลุ่ม ปตท.ยังไปได้ดี ทั้งธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ท่อก๊าซฯ ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันปรับตัวลงทำให้ยอดขายน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แต่อาจได้รับผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันบ้างก็ตาม ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ก็ขาดทุนลดลงจากการปรับขึ้นราคาขายปลีก โดยทุกการปรับขึ้น 1 บาท/กก. ทำให้ลดการขาดทุนลง 10 ล้านบาท/วัน