“แม็คยีนส์” ผนึก ปตท.รุก AEC ลุยชอปปิ้งออนไลน์ในจีน

“แม็คกรุ๊ป” ปรับตัวก้าวสู่ความเป็นไลฟ์สไตล์ธุรกิจ เพิ่มสินค้ากลุ่มนอนยีนส์มากขึ้น พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ เดิมเกมไปพร้อมปั๊ม ปตท. ลุยไทยและต่างประเทศ ปักหมุดชอปปิ้งออนไลน์ หวังเจาะตลาดจีน มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุ 5 พันล้านบาท โต 20%

นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะมีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ มากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น ล่าสุดจับมือกับสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ในส่วนของธุรกิจนอนออยล์ ด้วยการใช้งบประมาณราวๆ 200 ล้านบาทเพิ่มจุดจำหน่ายภายในพื้นที่รีเทลของสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. โดยในปีแรกนี้อาจจะยังไม่เร่งรีบมากนักเพื่อศึกษาตลาด หลังจากนั้นจะมีการเพิ่มสาขาเร็วขึ้นรองรับกำลังซื้อทั้งในและต่างประเทศที่ ปตท.จะเข้าไปเปิดให้บริการในแต่ละประเทศ

ส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายนั้นจะมีราคาต่ำกว่าร้านทั่วไปปกติเล็กน้อยเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะมีทั้งยีนส์และสินค้าที่ไม่ใช่ยีนส์รองรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อ จากปัจจุบันพบว่าคนไทยเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงไปแบบกลุ่ม เช่น กลุ่มบิ๊กไบค์ หรือพวกขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ จะเป็นอีกกลุ่มที่น่าจะมีโอกาสเข้าถึงได้ดีกว่าปกติ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นการเช่าพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตรต่อจุด เชื่อว่าจะช่วยให้ “แม็คยีนส์” มีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นทั้งใน และต่างประเทศ

ปัจจุบัน “แม็คยีนส์” มีจุดจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 800 จุด เป็นแบบสแตนด์อะโลน 200 จุด ปีนี้พร้อมใช้งบกว่า 200 ล้านบาทในการรีโนเวตขยายสาขาเดิมให้ใหญ่ขึ้นจาก 80 ตารางเมตรเป็น 100 ตารางเมตร รวม 20 จุด และเพิ่มสาขาใหม่อีก 60 จุด

นางสาวสุณีกล่าวต่อว่า การเปิดเออีซีถือเป็นความท้าทายของบริษัทฯ ในการที่จะเข้าไปรุกตลาดยีนส์ในประเทศต่างๆ เหล่านี้ เพราะเป็นโลคัลแบรนด์เดียว ขณะที่ตลาดยีนส์ส่วนใหญ่จะเป็นอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งการไปพร้อมกับ ปตท.ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง จากปัจจุบันเริ่มมีจำหน่ายบ้างแล้วในประเทศพม่า ปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามากว่า 6 ล้านบาทต่อเดือน จากที่ผ่านมาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อเดือน เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อช่องทางชอปปิ้งออนไลน์ โดยเว็บไซต์เดิมของบริษัทฯ ที่จำหน่ายออนไลน์จะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงจับมือกับพันธมิตร เช่น เว็บชอปปิ้งออนไลน์ในประเทศจีน เพื่อต้องการเจาะตลาดจีนด้วยหลังจากเห็นกระแสชอปปิ้งออนไลน์ในจีนเติบโตอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีโมเดลในการเพิ่มสินค้ากลุ่มนอนยีนส์มากขึ้น ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2556 โดยหลังจากนี้ “แม็คกรุ๊ป” จะก้าวขึ้นเป็น “ไลฟ์สไตล์บิสิเนส” จากเดิมที่จำหน่ายเพียงยีนส์ จะเพิ่มสินค้าไลฟ์สไตล์เข้ามา ทั้งนาฬิกา แอ็กเซสซอรี และกระเป๋าเดินทางล้อลากที่จะได้เห็นในปีนี้ รวมถึงชอปของยีนส์พรีเมียมในแบรนด์ “บลู บราเธอร์” ที่จะมีความเป็นชอปไลฟ์สไตล์ มีจำหน่ายกาแฟภายในร้าน เป็นต้น

นางสาวสุณีกล่าวสรุปว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่มีการลงทุนไม่สูงมาก เน้นบริหารจัดการให้ดีขึ้น ภายใต้งบการตลาดที่ใช้เพียง 2-3% ของรายได้เท่านั้น โดยในแง่รายได้คาดหวังว่าน่าจะเติบโตที่ 20% หรือมีรายได้รวมที่ 5 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ยังมั่นใจว่ารายได้ยังมีกำไรอยู่ แม้ว่าจะชะลอตัวลงจากปัญหาต่างๆ รวมถึงราคาพืชผลที่ทำให้รายได้เกษตรลดลง