นครปฐม - ปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดนครปฐม เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 59 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 63 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน สาเหตุเกิดจากเมาสุรา รถมอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ตัดหน้ากระชั้นชิด และขับรถเร็วเกินกำหนด
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 พร้อมสรุปผลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2558 ซึ่งเป็น 7 วันของการรณรงค์ มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 59 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 63 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา จำนวนการเกิดอุบัติเหตุลดลง 2 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บลดลง 5 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5 คน
อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นบริเวณถนนสายรอง ซึ่งเป็นถนนภายในหมู่บ้าน สาเหตุเกิดจากเมาสุรา รถมอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ตัดหน้ากระชั้นชิด และขับรถเร็วเกินกำหนด ยานพาหนะที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถมอเตอร์ไซค์ รองลงมาคือ รถเก๋ง และรถบรรทุก 6 ล้อ
ในส่วนของการตั้งจุดตรวจหลักทั้ง 14 จุด มีผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจ ประกอบด้วย ตำรวจ ขนส่ง อปพร. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสาธารณสุข โดยทั้ง 7 วันได้ทำการเรียกตรวจยานพาหนะตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย จำนวน 54,880 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการลดพฤติกรรมเสี่ยง 10 มาตรการ จำนวน 7,953 ราย เนื่องจากไม่สวมหมวกนิรภัย 2,330 ราย มอเตอร์ไซค์ดัดแปลง 489 ราย เมาสุรา 105 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 860 ราย ไม่มีใบขับขี่ 1,811 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 513 ราย ขับรถย้อนศร 646 ราย แซงในที่คับขัน 102 และใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ 95 ราย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ได้เตรียมแผนในการรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการสวมหมวกนิรภัย และการดื่มไม่ขับ เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ขณะเมาสุรา โดยไม่สวมหมวกนิรภัย
อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นบริเวณถนนภายในหมู่บ้าน ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ จังหวัดนครปฐม เตรียมนำโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งจุดตรวจกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตตั้งแต่ระดับหมู่บ้านต่อไป
