ผอ.อสมท แจงการประมูลเครื่องส่งโทรทัศน์ระบบดิจิตอลโปร่งใสทุกขั้นตอน หลังบริษัทร่วมประมูลร้อง “ล็อกซเล่ย์” ผู้ชนะ ผิดสเปกสำคัญ ภายหลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพบไร้ผิด สั่งเดินหน้าอนุมัติจัดซื้อต่ำกว่าวงเงินงบประมาณถึง 225.6 ล้านบาท ยืนยันพร้อมติดตั้งครบ 39 สถานีหลักภายในกลางปี 2558 ครอบคลุม 80% ของจำนวนครัวเรือนตามเป้า กสทช.
นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกระบวนการจัดซื้อและติดตั้งระบบและอุปกรณ์สำหรับให้บริการโครงข่ายกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล จำนวน 1 ระบบ และจัดซื้อและติดตั้งรายการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ จำนวน 1 โครงการ ว่า จากที่ อสมท ได้ยกเลิกจัดซื้อและติดตั้งระบบและอุปกรณ์สำหรับให้บริการโครงข่ายกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของ อสมท เมื่อกลางปี 2557 ซึ่งคณะกรรมการจัดหาพัสดุโดยวิธีพิเศษได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีผู้เสนอราคารายใดเสนอสิ่งของถูกต้องตามข้อกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ
“ภายหลังจากได้ยกเลิกการจัดซื้อดังกล่าว ฝ่ายบริหารของ อสมท มีความเห็นว่าเพื่อให้การให้บริการออกอากาศโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง จึงให้ดำเนินการจัดเช่าอุปกรณ์เครื่องส่งเพื่อใช้งานในระหว่างดำเนินการจัดซื้อใหม่”
ความคืบหน้าล่าสุดของการจัดซื้อและติดตั้งระบบและอุปกรณ์สำหรับให้บริการโครงข่ายกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล อสมท ได้ประกาศโครงการจัดซื้อฯ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.57 งบประมาณ 440 ล้านบาท กำหนดราคากลาง 318.5 ล้านบาท โดยมีผู้สนใจซื้อซองประกวดราคาจำนวน 11 ราย ซึ่งในการประกวดราคาครั้งนี้ อสมท ได้เพิ่มกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นด้าน “ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง” (Term of Reference : TOR) จากบริษัทต่างๆ จำนวน 2 ครั้ง เพื่อนำข้อคิดเห็นที่ได้มาปรับปรุง TOR ก่อนดำเนินการประกวดราคา ผลปรากฏว่ามีผู้มายื่นซองประกวดราคาจำนวน 5 ราย ได้แก่ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น (IRCP), บจ.ไทยทรานสมิชชั่น อินดัสทรี, บมจ.ล็อกซเล่ย์, บจ.สามารถคอมเทค และ บจ.เซน เทคโนโลยี
ทั้งนี้ อสมท ได้แบ่งวิธีพิจารณาการประกวดราคาเป็น 3 ซองคือ ด้านคุณสมบัติบริษัท, ด้านเทคนิคอุปกรณ์ และด้านราคา ซึ่งคณะกรรมการรับซองฯ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มายื่นซองฯ ทั้ง 5 ราย ปรากฏว่าเอกสารการยื่นซองครบถ้วน จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการเปิดซองฯ ดำเนินการเปิดซองเทคนิคซึ่งมีบริษัทที่ผ่านการพิจารณาทางด้านเทคนิคอุปกรณ์ทั้งสิ้น 3 รายคือ บมจ.ล็อกซเล่ย์, บจ.สามารถคอมเทค และ IRCP
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.57 คณะกรรมการเปิดซองฯ ได้ทำการเปรียบเทียบด้านราคาของบริษัททั้ง 3 รายคือ บมจ.ล็อกซเล่ย์, บจ.สามารถคอมเทค และ IRCP ที่ผ่านการพิจารณาทางด้านเทคนิคอุปกรณ์ ปรากฏว่า บมจ.ล็อกซเล่ย์เสนอราคาต่ำสุดและอยู่ในวงเงินงบประมาณ จึงได้ทำการต่อรองราคา โดย บมจ.ล็อกซเล่ย์ได้มีหนังสือลดราคาแจ้งลดราคาลงอีกเป็นเงิน 273,308 บาท จากเดิมที่เสนอราคารวมเป็นเงิน 214,673,308 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็นราคาที่เสนอหลังจากต่อรองราคา เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 214,400,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ทั้งนี้ คณะกรรมการเปิดซองฯ ได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนและต่อรองราคาเพื่อประโยชน์ต่อ อสมท มากที่สุดแล้ว จึงเห็นควรจัดซื้อและติดตั้งระบบและอุปกรณ์สำหรับให้บริการโครงข่ายกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล จำนวน 1 ระบบ และรายการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ จำนวน 1 โครงการ เป็นเงิน 214,400,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นเงิน 15,008,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 229,408,000 บาท จาก บมจ.ล็อกซเล่ย์ โดยวิธีประกวดราคา ซึ่งต่ำกว่าวงเงินงบประมาณ 225,600,000 บาท คิดเป็น 51.27% และต่ำกว่าราคากลาง 104,100,000 บาท คิดเป็น 32.68%
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนี้นั้น ทำให้ อสมท ประหยัดงบประมาณลงถึงกว่า 200 ล้านบาท หรือเกือบ 45% จากการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษที่มีมูลค่าสูงถึง 419 ล้านบาท อีกทั้งวิธีการที่ใช้ในการดำเนินการครั้งนี้เป็นวิธีการประกวดราคาซึ่งเป็นการเปิดกว้างให้มีการแข่งขันด้านราคาและด้านคุณภาพแตกต่างจากการดำเนินการครั้งแรก
สำหรับประเด็นที่ บจ.สามารถคอมเทค และ IRCP ในฐานะที่เป็นผู้เสนอราคาที่ยื่นซองประกวดราคาได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการเปิดซองฯ เพื่อทบทวนการพิจารณาคัดเลือก บมจ.ล็อกซเล่ย์ นั้น บจ.สามารถคอมเทค ทักท้วงในกรณีที่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ เสนออุปกรณ์เครื่องส่งโทรทัศน์ยี่ห้อ NEC รุ่น DTU-70D ซึ่งมีค่า Modulation Error Rate (MER) > 32 dB ซึ่งไม่ผ่านข้อกำหนดด้านเทคนิค เพราะตามกำหนดของ อสมท จะต้องมีค่า MER ≥ 33 dB
ส่วน IRCP มีข้อสงสัยใน 2 ประเด็นคือ เครื่องส่งโทรทัศน์ ยี่ห้อเอ็นอีซี รุ่น DTU-70D-M ที่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ เสนอนั้นยังไม่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปและอาจยังไม่มีจำหน่ายที่ใดมาก่อนซึ่งขัดต่อข้อกำหนดของ อสมท ที่ต้องการเครื่องส่งฯ ที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตที่จัดจำหน่ายไปทั่วโลก และอีกประเด็นคือ เรื่องการแปลงสัญญาณภาพและเสียงของอุปกรณ์ Satellite Receiver ของระบบเชื่อมโยงสัญญาณดาวเทียม (IRD)
จากประเด็นข้อร้องเรียนของทั้ง 2 บริษัท อสมท ได้ชี้แจงว่า บมจ.ล็อกซเล่ย์ เสนอเครื่องส่งโทรทัศน์ยี่ห้อ NEC รุ่น DTU-70D ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับที่ไทยพีบีเอสใช้และมีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป และแค็ตตาล็อกที่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ นำเสนอมาถูกต้องตามข้อกำหนด ทั้งนี้ อสมท จะให้บริษัทผู้ผลิตยืนยันความถูกต้องของแค็ตตาล็อกอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนประเด็นเรื่องการแปลงสัญญาณภาพและเสียงของอุปกรณ์ Satellite Receiver ของระบบเชื่อมโยงสัญญาณดาวเทียม (IRD) ที่ IRCP ร้องเรียนนั้น อสมท ชี้แจงว่าอุปกรณ์ Satellite Receiver ไม่ต้องมีฟังก์ชันในการถอดรหัส T2-MI Deframing to MPEG TS โดย อสมท ออกแบบให้ Satellite Receiver ทำหน้าที่เพียงผ่านสัญญาณที่รับมาจากสถานีต้นทางเพื่อส่งสัญญาณ T2-MI ไปยังเครื่องส่ง อีกทั้ง บมจ.ล็อกซเล่ย์ได้เสนออุปกรณ์ Satellite Receiver ยี่ห้อ Ericsson รุ่น RX 8200 มิใช่รุ่น RS 8200 ตามข้อร้องเรียนของ IRCP นอกจากนี้ ผู้เสนอราคารายอื่นเสนออุปกรณ์ IRD ที่ไม่สามารถทำ T2-MI Deframing to MPEG TS ได้เช่นกัน และ อสมท ได้มีหนังสือชี้แจงบริษัทในประเด็นที่ได้รับการร้องเรียนแล้ว
นายศิวะพรกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อกระบวนการจัดซื้อและติดตั้งระบบและอุปกรณ์สำหรับให้บริการโครงข่ายกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลฯ ครั้งนี้แล้วเสร็จ อสมท จะดำเนินการติดตั้งเครื่องส่งฯ ให้ครบ 39 สถานีหลักภายในกลางปี 2558 ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ 80% ของจำนวนครัวเรือนตามแผนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)