xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.คงเป้าขายโต 6% แม้น้ำมันแตะ 30 เหรียญ หวั่นราคาต่ำลากยาวฉุดโครงการใหม่ชะงัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปตท.สผ.การันตีปีนี้เป้าหมายการขายปิโตรเลียมโต 6% อยู่ที่ 3.43 แสนบาร์เรล/วัน ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตกต่ำแม้ว่าหลายสำนักฯ ประเมินมีโอกาสเห็นน้ำมันดิบที่ 30 เหรียญ/บาร์เรลก็ตาม แต่ยอมรับปีหน้าไม่โต เหตุแหล่งเยตากุนผลิตลดลงและไม่มีโครงการใหม่เสริมเข้ามา จับตาปลายปีนี้ชี้ขาดจะเดินหน้าพัฒนาโครงการโมซัมบิกหรือไม่ ยอมรับโครงการ Hassi ที่แอลจีเรีย และออยล์แซนด์ที่แคนาดาส่อเลื่อนยาวหากราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 40-50 เหรียญ/บาร์เรล ปลื้มหั่นค่าใช้จ่าย 5 ปีนี้ลง 560 ล้านเหรียญ และเตรียมจ่อหั่นงบการลงทุนด้วย

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันต่ำกว่า 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางสำนักวิเคราะห์ว่าอาจเห็นราคาน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ระดับ 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลนั้น ขอยืนยันว่าระดับราคาน้ำมันดิบดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายปริมาณการผลิตและจำหน่ายปิโตรเลียมของบริษัทฯ ในปีนี้ที่ตั้งเป้าปริมาณการขายไว้ 3.43 แสนบาร์เรล/วัน โตขึ้น 6% จากปีก่อนที่มียอดขาย 3.22 แสนบาร์เรล/วัน แต่ปี 2559 ปริมาณการผลิตและขายปิโตรเลียมของบริษัทฯ อาจไม่โตขึ้น เนื่องจากแหล่งปิโตรเลียมเดิมมีปริมาณการผลิตที่ลดลงไป เช่น แหล่งเยตากุนในพม่า และไม่มีการผลิตจากแหล่งใหม่เข้ามาเพิ่มเติม

“หากราคาน้ำมันดิบลงต่ำมาถึง 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล บริษัทฯ ก็ยังคงผลิตปิโตรเลียมทุกแหล่งได้อยู่ ทำให้ปริมาณการขายในปีนี้ไม่ได้รับผลกระทบด้านราคาน้ำมัน แต่สิ่งที่กระทบคือ แผนการพัฒนาต่อเนื่อง ที่ต้องพิจารณาว่าจะยังเดินหน้าลงทุนพัฒนาตามแผนงานต่อไปหรือไม่ ซึ่งโชคดีที่บริษัทยังไม่มีการ Commit ว่าจะต้องพัฒนาโครงการใดจนกว่าจะถึงปลายปีนี้ ทำให้มีเวลาตัดสินใจได้ 1 ปี และเชื่อว่าภายในครึ่งปีแรกจะเห็นสัญญาณราคาน้ำมันต่ำสุดว่าอยู่ที่เท่าใด และมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางไหน ทำให้ภาพชัดเจนขึ้น โดยระดับราคาน้ำมันดิบที่ 45 เหรียญ/บาร์เรลทำให้เริ่มเห็นว่ามีบางโครงการ Shale Oil ในสหรัฐฯ เริ่มหยุดผลิตบ้างแล้ว”

ส่วนงบลงทุนในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 2558-2562) ที่ 2.43 หมื่นล้านเหรียญ บนสมมติฐานน้ำมันดิบต่ำสุดที่ 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลที่บริษัทฯ กำหนดเมื่อช่วงปลายปี 2557 พบว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันต่ำกว่าสมมติฐานที่วางไว้แล้ว ดังนั้นบริษัทฯ จะพิจารณาว่าจะปรับลดงบลงทุนหรือไม่ โดยงบลงทุนนี้แบ่งเป็นการลงทุนที่แน่นอนคิดเป็น 70%ของงบลงทุนทั้งหมด ส่วนอีก 30% จะต้องมาประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำแผนลดค่าใช้จ่ายภายใต้โปรแกรม ลด ละ เลื่อนในโครงการ Save to be Safe โดยมีเป้าหมายที่จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งเจรจากับผู้รับเหมาที่จะขอปรับลดราคาลงในช่วงนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงในช่วง 5 ปีนี้จำนวน 560 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นกว่า 2% ของงบลงทุนรวม 5 ปี

โดยปี 2558 บริษัทได้ปรับลดค่าใช้จ่ายไปแล้ว 270 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ทำงบลงทุน และจะปรับลดลงอีก 58 ล้านเหรียญสหรัฐมาจากการลดค่าใช้จ่ายด้านปฏิบัติงาน การออกแบบหลุมเจาะ และแท่นการผลิตให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยจะลดสิ่งที่ไม่จำเป็นลง แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมอยู่

“ขณะนี้วัฒนธรรมของการทำธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทำกันแบบอู่ฟู้ เปลี่ยนมาเป็นการประหยัด ลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้องค์กรอยู่ได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพภายใต้ภาวะราคาน้ำมันตกต่ำเช่นนี้”

นายเทวินทร์กล่าวว่า แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดต่ำลงมามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่บริษัทฯ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ทั้ง 5 โครงการในต่างประเทศ แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้มากที่จะเลื่อนการพัฒนาโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ที่แคนาดา และโครงการ Hassi Bir Rekaiz ที่แอลจีเรียจนกว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ โครงการที่จะมีความชัดเจนในการตัดสินใจลงทุนพัฒนาเป็นโครงการแรก คือ โครงการแหล่งก๊าซฯ ที่โมซัมบิกที่ ปตท.สผ.ถือหุ้น 8.5% ซึ่งตามแผนยังยืนยันจะพัฒนาลงทุนในปลายปีนี้ และคาดว่าจะผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ได้ในปี 2562 เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีการเจรจาและเตรียมทำสัญญาซื้อขายกับผู้ซื้อแล้วคิดเป็น 60% ของกำลังการผลิต 10 ล้านตัน รวมทั้งรัฐบาลโมซัมบิกเห็นชอบกฎหมาย สร้างความมั่นใจด้านผลตอบแทนการลงทุนในโครงการ

ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ และคัดเลือกผู้รับเหมา รวมทั้งเจรจากู้เงินจากสถาบันการเงินด้วย โดย ปตท.สผ.จะใช้เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

โครงการ Cash Maple ในออสเตรเลีย ซึ่งได้มีการประเมินปริมาณสำรองก๊าซฯ 3 ล้านล้าน ลบ.ฟ. อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะพัฒนาโครงการได้อย่างไร คาดว่าโครงการดังกล่าวอาจเลื่อนการลงทุนออกไปเช่นกัน แต่ก็มีเวลาตัดสินใจพัฒนาโครงการ 2-3 ปีนี้ ซึ่งถึงเวลานั้นก็คาดว่าราคาน้ำมันจะไม่ต่ำกว่าปัจจุบัน

ส่วนโครงการ M3 ประเทศพม่า แม้ว่าเจอก๊าซฯ แล้ว ซึ่งตามแผนเดิมจะต้องลงทุนพัฒนาใน 2-3 ปีข้างหน้า ทำให้บริษัทฯ มีเวลาประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันก่อนตัดสินใจลงทุนได้

โครงการ Hassi Bir Rekaiz ประเทศแอลจีเรีย ได้ขุดพบน้ำมันและเตรียมพัฒนาโครงการในปีหน้าหรือปีถัดไป แต่เนื่องจากระดับราคาน้ำมันตกต่ำเช่นนี้ ทำให้ปีหน้าค่อยตัดสินใจว่าจะมีการอนุมัติลงทุนโครงการตามแผนงานเดิมหรือไม่ เพราะหากราคาน้ำมันดิบต่ำอยู่ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลจะมีผลต่อการลงทุน

เช่นเดียวกับโครงการมาเรียนา ออยล์แซนด์ ที่แคนาดา ที่ปัจจุบันต้นทุนการลงทุนโครงการออยล์แซนด์อยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ราคาขายบิทูเมนปรับตัวลงอยู่ที่ 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และยังมีข้อจำกัดเรื่องท่อส่งน้ำมันด้วย ซึ่งถือเป็นความท้าทายว่าบริษัทจะหาเทคโนโลยีใหม่เพื่อลดต้นทุนได้หรือไม่ โดยมีโอกาสมากที่จะเลื่อนการลงทุนโครงการไปก่อนจากเดิมที่กำหนดไว้ปี 2559 หรือต้นปี 2560 เพราะมีต้นทุนสูง

**กำเงิน 3 พันล้านเหรียญไล่ซื้อกิจการ

นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการเบอร์ซาบา ประเทศแอลจีเรีย ได้เลื่อนการผลิตน้ำมันดิบจากปลายปี 2557 เนื่องจากติดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทำให้ไม่มั่นใจว่ากลางปีนี้จะผลิตน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ได้หรือไม ถือเป็นโครงการใหม่ที่จะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้

จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแรงส่งผลกระทบต่อการลงทุนโครงการใหม่ๆ ในอนาคต บริษัทฯ ก็มองเห็นเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการ โดยมีเงินสดไว้ถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หากพบโครงการที่ดีในไทย หรือภูมิภาคนี้ รวมทั้งยังสนใจเข้าร่วมทุนโครงการ Shale Oil ในสหรัฐฯ ด้วย

พร้อมกับยืนยันที่จะยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมของไทยรอบที่ 21 นี้ เนื่องจากเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของไทย แม้ว่าแปลงสัมปทานที่เปิดนั้นจะไม่ใช่แหล่งใหญ่ก็ตาม

** ปี 57 กำไรวูบจากบันทึกด้อยค่าทรัพย์สิน

สำหรับผลประกอบการในปี 2557 ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวลง เพราะรายได้ 2/3 มาจากก๊าซฯ ซึ่งมีราคานิ่ง ส่วนอีก 1/3 เป็นคอนเดนเสตและน้ำมัน ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงในไตรมาส 4 แต่บริษัททำประกันความเสี่ยงไว้ที่ระดับราคา 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่กำไรสุทธิจะลดลงจากการบันทึกการด้อยค่าทรัพย์สินทั้งโครงการมาเรียนา ออยล์แซนด์ และโครงการมอนทารา ออสเตรเลีย
กำลังโหลดความคิดเห็น