กรมการค้าต่างประเทศเตือนผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จัดสรรโควตานำเข้าเหล็กภายใต้ JTEPA เร่งลงนามรับส่วนจัดสรรภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้ หากพ้นกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ เผยจะมีการทบทวนปริมาณโควตานำเข้าอีกครั้งในเดือน พ.ค.นี้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ขอแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการรายใหม่ให้มายื่นคำขอต่อกรมฯ เพื่อขอรับส่วนจัดสรร และผู้ประกอบการที่มีประวัติการนำเข้าจากญี่ปุ่นและได้รับการจัดสรรโควตานำเข้า ที่ประสงค์จะขอรับการจัดสรรโควตานำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ประจำปี 2558 ให้นำหนังสือสัญญาค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์มาให้ไว้ต่อกรมฯ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดภายในวันที่ 31 ม.ค. 2558 นี้ หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะถือว่าสละสิทธิ์
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารการนำเข้าสินค้าหมวดเหล็กและเหล็กกล้าที่มีโควตาตามความตกลง JTEPA ได้มีมติกำหนดปริมาณโควตาปี 2558 ตามข้อเสนอของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ซึ่งได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กและสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยแล้ว
โดยผลการจัดสรรแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 เหล็กแผ่นรีดร้อน กัดกรด เคลือบน้ำมัน เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ปริมาณโควตารวม 210,000 ตัน แบ่งจัดสรรเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ปริมาณ 207,000 ตัน จัดสรรให้แก่ผู้นำเข้าจากญี่ปุ่นที่มีประวัตินำเข้าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง (2555-2557 ช่วง ม.ค.-ต.ค.) ส่วนที่ 2 ปริมาณ 3,000 ตัน จัดสรรให้ผู้ขอที่ไม่มีประวัตินำเข้าหรือเป็นผู้นำเข้ารายใหม่ รายละไม่เกิน 1,000 ตัน
กลุ่มที่ 2 เหล็กแผ่นรีดร้อนสำหรับนำไปรีดเย็นต่อเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ปริมาณโควตารวม 150,000 ตัน และกลุ่ม 3 เหล็กแผ่นรีดร้อนสำหรับรีดเย็น เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์หรือชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบยานยนต์ ปริมาณโควตารวม 170,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม ในการจัดสรรนี้กรมฯ ได้ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีศุลกากร สำหรับเหล็กและเหล็กกล้าที่มีโควตาตามความตกลง JTEPA ในปี 2558 และประกาศกรมฯ เรื่อง ผลการจัดสรรปริมาณนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่จะออกหนังสือรับรองฯ ในปี 2558 แล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะพิจารณาทบทวนปริมาณโควตานำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่นอีกครั้งในเดือน พ.ค. 2558 นี้
