“จักรมณฑ์” เซ็นอนุมัติให้อาชญาบัตรสำรวจแร่โปแตซกับ 2 บริษัทจีนได้แก่ ไชน่าหมิงต๋า และโรงปัง รวมพื้นที่ 1.6 แสนไร่ที่ จ.สกลนคร และนครราชสีมา พร้อมจ่อให้ประทานบัตรผลิตโปแตซกับ บ.เหมืองแร่โปแตซอาเซียน จ.ชัยภูมิ มั่นใจไทยผลิตโปแตซได้จะทำให้ราคาปุ๋ยต่ำลง 10%
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เซ็นอนุมัติให้อาชญาบัตรสำรวจแร่โปแตซกับ 2 บริษัทจากจีน ได้แก่ 1. ไชน่าหมิงต๋า โปแตซ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 12 แปลงพื้นที่ 1.2 แสนไร่ อยู่ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร 2. บ.โรงปัง ไมนิ่ง จำกัด 4 แปลง จำนวน 4 หมื่นไร่ อยู่ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีอายุการสำรวจแร่ระยะเวลา 5 ปี
“จากการประเมินปริมาณสำรองแร่โปแตซในพื้นที่ออ.วานรนิวาสอยู่ประมาณ 100 ล้านตัน ขณะที่พื้นที่ในโคราชสำรองคาดว่าจะไม่เกิน 30 ล้านตัน ซึ่งหลังจากที่สำรวจและพบว่ามีศักยภาพเชิงพาณิชย์เขาก็จะขอประทานบัตรทำเหมืองต่อไป ส่วนกรณีของบริษัทเหมืองแร่โปแตซอาเซียน จ.ชัยภูมินั้นอยู่ในกระบวนการที่ใกล้จะเสร็จและเตรียมที่จะมีการพิจารณาอนุมัติประทานบัตรได้เร็วๆ นี้” นายจักรมณฑ์กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องการส่งเสริมให้มีการสำรวจและผลิตแร่โปแตซในประเทศ เนื่องจากต้องการลดการนำเข้าโปแตซซึ่งจะเป็นวัตถุดิบตัวหนึ่งในการนำมาผลิตปุ๋ยในปัจจุบันซึ่งไทยต้องนำเข้าปีละ 7 แสนตันหรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งปกติปุ๋ยจะมีส่วนผสม 3 ตัว คือ ไนโตรเจน (N ) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ดังนั้น การที่ไทยมีผลผลิต 1 ตัวก็จะต่อรองในการซื้อตัวอื่นๆ ลงได้อีก โดยยืนยันว่าหากมีการผลิตโปแตซในไทยจะทำให้ราคาปุ๋ยภาพรวมถูกลงอย่างต่ำ 10%
นายจักรมณฑ์กล่าวว่า การสำรวจโปแตซนั้นเมื่อจะผลิตจริงจะมีการกำหนดให้ทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน (EHIA) เพื่อป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แม้ว่าตัวโปแตซเองไม่ได้มีผลกระทบต่อสุขภาพแต่อย่างใดแต่ก็จะทำการดูแลอย่างใกล้ชิด