ลุ้นเครื่องใช้ไฟฟ้า 7 หมื่นล้าน ปี 57 วูบต่ำสุดรอบ 5 ปี

ASTVผู้จัดการรายวัน - พิษการเมืองฉุดรากหญ้ายังไม่ฟื้นตัว “แอลจี” มุ่งขายสินค้ากลุ่มกลางถึงบนต่อเนื่อง ดันรายได้ทั้งปีโต 15% อีกครั้ง ชี้ปีนี้ทีวียังครองแชมป์เป็นเรือธง ส่งตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าทะลุ 70,000 ล้านบาท เติบโต10% หลังพบปีก่อนตลาดตู้เย็นเจ็บสุดติดลบ 15%

นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2558 เชื่อว่าน่าจะกลับมาเติบโตได้ 10% หรือมีมูลค่าสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสหนึ่งอาจจะยังไม่เห็นความชัดเจน เนื่องจากนโยบายต่างๆ เพิ่งจะเริ่มต้นซึ่งต้องใช้เวลา 2-3 เดือนจึงจะเข้าที่ แต่จะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นหลังจากไตรมาสสอง จากปีก่อนตลาดรวมทำได้ราว 6.5 หมื่นล้านบาท เติบโตต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งกว่า 30-40% เป็นรายได้จากกลุ่มทีวี เอชเอ 35% แอร์ 25% และอีก 10% มาจากอื่นๆ รวมกัน

ในปีนี้มองว่า กลุ่มทีวียังเป็นสินค้าหลักในการขับเคลื่อนภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเฉพาะทีวีน่าจะเติบโตได้ถึง 10% จากปัจจัยหลัก 3ด้านคือ 1.อุตสาหกรรมบรอดคาสติ้งเติบโตและมีขนาดใหญ่มากขึ้น 2.คอนเทนต์มีให้เลือกมากขึ้น และ 3.ลูกค้ามีพฤติกรรมซื้อทีวีเครื่องที่ 2 และ 3 มากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่ากลุ่มเครื่องปรับอากาศจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะเติบโตได้ดีในปีนี้จากการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าจากปัญหาการเมืองที่ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจมีผลกระทบโดยตรงกับลูกค้าระดับล่าง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่พบว่าปีที่ผ่านมากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือเอชเอ ค่อนข้างนิ่ง โดยกลุ่มเครื่องซักผ้าอาจจะยังเติบโตได้ถึง 10% และตู้เย็นปีก่อนติดลบ15% ปีนี้จึงมองว่าอาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก

จากปัจจัยดังกล่าวรวมถึงเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลให้แผนการดำเนินงานของ “แอลจี” ในปีนี้จะต้องระมัดระวังมากขึ้น ภายใต้งบการตลาดที่ใช้เพิ่มขึ้นอีก 5% จากปีก่อนใช้ไป 1.5 พันล้านบาท และมีการนำเสนอสินค้าใหม่ในจำนวนใกล้เคียงกับปีก่อน เน้นดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และการนำเสนอเทรนด์ใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของตลาดพร้อมให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงบนเป็นหลัก เช่น ทีวีขนาด 42 นิ้วขึ้นไป, เครื่องซักผ้าฝาหน้า และแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ เป็นต้น หลังจากปีก่อนสินค้าระดับล่างได้รับผลกระทบมากสุด

นายอลงกรณ์ กล่าวต่ออีกว่า จากแผนการตลาดที่วางไว้เชื่อว่าในปีนี้ “แอลจี” จะยังมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 15% จากปีก่อนที่ปิดรายได้ที่ 2 หมื่นล้านบาท โตเพียง 7% จากเป้าที่วางไว้ 15% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากกลุ่มทีวีที่มีการเติบโตได้ 8% ขณะที่ตลาดรวมทีวีเติบโตเพียง 2% โดยรายได้กว่า 60% มาจากสินค้าระดับกลางถึงบน และอีก 40% มาจากสินค้าระดับล่างที่ได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลที่ยังตกต่ำ และนโยบายภาครัฐที่ยังไม่คืบหน้า