“พาณิชย์” จ่อนัดหารือห้าง บี้ลดค่าเช่าพื้นที่และค่าส่วนแบ่งรายได้ หลังพบเรียกเก็บสูงเวอร์จนทำให้ราคาอาหารแพงสุดโต่งสวนทางต้นทุนต่างๆ ที่ปรับลดลง พร้อมนำร่องประกาศราคาแนะนำ เนื้อหมู ไข่ไก่ ก๊าซหุงต้ม ดีเดย์สัปดาห์หน้า จับตาค่าเอฟที หากงวด พ.ค.-ส.ค.มีการปรับลดลงอีกเตรียมถกผู้ผลิตลดราคาสินค้าตาม แฉเดอะมอลล์สุดแสบ เรียกเก็บค่าเช่าสุดแพงคิด 38% ต่อจาน ทำให้ราคาอาหารในห้างมีแต่พุ่งขึ้น
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ จะเชิญห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ มาหารือในประเด็นการเก็บค่าเช่าพื้นที่ที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการร้านอาหารปรุงสำเร็จ หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการเรียกเก็บในอัตราแพงเกินไป จนทำให้ผู้ประกอบการต้องจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคาที่สูงเกินจริง เพราะหากจำหน่ายในราคาปกติก็จะทำให้เกิดการขาดทุน ขณะที่ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการบริโภคอาหารในราคาที่แพงเกินไป จึงต้องเรียกมาหารือเพื่อกำหนดราคาที่เหมาะสมให้แต่ละฝ่าย
“ประเด็นเรื่องค่าเช่าพื้นที่มีปัญหามานานแล้ว กรมฯ เคยเรียกห้างมาหารือแล้ว และสามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเมื่อมีปัญหาขึ้นมาอีกก็ต้องเรียกมาหารืออีกครั้ง แล้วจะเข้าไปดูว่าต้นทุนจริงๆ ของห้างอยู่ตรงไหน ถ้าขอความร่วมมือได้ก็จะขอความร่วมมือให้ลดราคาค่าเช่าลงมา เพื่อทำให้ราคาอาหารในห้างมีราคาถูกลง” นายบุญยฤทธิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาอาหารปรุงสำเร็จที่จำหน่ายในตลาดทั่วไป กรมฯ เชื่อว่าจะมีราคาปรับลดลง หรือราคาทรงตัวไม่ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่กรมฯ จะออกประกาศราคาแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาหารนำร่อง 3 รายการ คือ เนื้อหมู ไข่ไก่ และก๊าซหุงต้ม คาดว่าจะประกาศได้ในสัปดาห์หน้า
นายบุญยฤทธิ์กล่าวว่า กรมฯ กำลังติดตามการประชุมของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่จะมีการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ในรอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 2558 หากมีการปรับลดค่าเอฟทีลงมาก็จะส่งผลทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลง และมีผลต่อต้นทุนราคาสินค้ามากกว่าต้นทุนราคาพลังงาน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดเชื่อว่าราคาสินค้าจะปรับลดลงได้อีก แต่ก็ยังเป็นเรื่องระยะยาว
ส่วนการปรับลดราคาสินค้าจากต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ลดลง วันนี้ (15 ม.ค.) จะมีสินค้าบางรายการปรับราคาลดลงเฉลี่ย 5-7% โดยที่เห็นชัดๆ ก็คือ น้ำมันหล่อลื่น วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ยเคมี และเม็ดพลาสติก ขณะที่สินค้ารายการอื่นๆ จะมีการปรับลดราคาในลำดับถัดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ปัญหาเรื่องการเก็บค่าเช่าพื้นที่และส่วนแบ่งรายได้ของห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกสมัยใหม่กับผู้ประกอบการที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จเกิดขึ้นมานานแล้ว และกระทรวงพาณิชย์เคยเรียกห้างมาหารือเพื่อให้ปรับลดค่าเช่าลงมา ซึ่งในการหารือทางห้างได้รับปากที่จะปรับลดค่าเช่าและค่าส่วนแบ่งรายได้ที่เรียกเก็บเฉลี่ยอยู่ที่ 35% ลงมาเหลือ 20% และรับที่จะคืนเงินสดให้ร้านค้าเร็วขึ้นเพื่อให้มีเงินหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการหารือ ห้างได้มีการปรับลดค่าเช่าลงมา แต่ในที่สุดก็ปรับขึ้นในอัตราเท่าเดิม และบางห้างมีการปรับขึ้นเกินไปกว่าราคาเดิม ทำให้ราคาอาหารปรุงสำเร็จในห้างมีแต่ปรับราคาเพิ่มขึ้น จนส่งผลให้ประชาชนมีการร้องเรียนเข้ามาอีก ทั้งๆ ที่ปัจจุบันนี้ต้นทุนในการปรุงอาหารส่วนใหญ่มีราคาปรับลดลง ทั้งเนื้อหมู ไข่ไก่ ผักสด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่ของห้างจากผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าอาหาร พบว่า ห้างเดอะมอลล์มีการเรียกเก็บค่าเช่าในอัตราที่สูงมาก โดยเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่และค่าส่วนแบ่งรายได้ในอัตราสูงถึง 38% ต่อจาน ซึ่งหากผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารในราคาเมนูละ 50 บาท ก็ต้องจ่ายให้ห้างสูงถึงจานละ 19 บาท และได้เงินเพียง 31 บาท หากขายต่ำกว่า 50 บาทตามที่ภาครัฐต้องการก็จะไม่คุ้มต้นทุนและขาดทุน ขณะที่ห้างอื่นๆ ก็มีการเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่และค่าส่วนแบ่งรายได้ในอัตราที่แตกต่างกัน แต่ก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ยกเว้นห้างเทอร์มินอล 21 ที่เก็บค่าเช่าพื้นที่ในอัตราที่ต่ำมาก และทำให้ผู้ค้าสามารถจำหน่ายอาหารได้ในราคาถูกกว่าในห้างทั่วๆ ไป
