“พาณิชย์” นัดถกผู้ผลิตปรับลดราคาสินค้า หลังเห็นชัดเจน ได้รับผลดีน้ำมันดีเซลลง

“พาณิชย์” เตรียมนัดผู้ประกอบการหารือปรับลดราคาสินค้าหลังน้ำมันดีเซลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดลงมาแล้วลิตรละ 3.60 บาท จับตาลดกลุ่มเหล็ก ปูน วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ยเคมี รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ยันไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่มีการติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด เตรียมส่งหนูณิชย์พาชิม เพิ่มทางเลือกบริโภคอาหารปรุงสำเร็จราคาถูกต่อ พร้อมจับตาราคาในห้าง หากพบแพงเกินนัดผู้ประกอบการหารือเรื่องค่าเช่าทันที

นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะนัดหารือผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มต่างๆ เพื่อหารือถึงการปรับลดราคาสินค้า หลังจากที่ราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตและการขนส่งได้ปรับลดลงมามาก โดยล่าสุดได้ปรับลงมาแล้วลิตรละ 3.60 บาท หรือมีราคาอยู่ที่ 26.39 บาทต่อลิตร โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามและวิเคราะห์ต้นทุนสินค้ากลุ่มต่างๆ ที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงมาโดยตลอด และเห็นว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับลดลงมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว

“กำลังนัดหารือกับผู้ผลิตกลุ่มต่างๆ แต่เบื้องต้น เพื่อให้เกิดความรวดเร็วจะใช้วิธีการหารือเป็นการภายใน อย่างโทร.ไปพูดคุย เพื่อขอความร่วมมือไปก่อน ใครทำได้ก็ขอให้ทำเลย เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน เพราะในเมื่อต้นทุนลดลงก็ควรจะลดราคาสินค้าลงมาด้วย”

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่จะขอความร่วมมือให้ปรับลดราคา เช่น กลุ่มเหล็ก ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และปุ๋ยเคมี เพราะแม้ผลการวิเคราะห์จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่มาก แต่หากซื้อเยอะ ซื้อทีละมากๆ ราคาก็ลดลงมาก ซึ่งต้องมาดูว่าจะปรับลดได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภครายการอื่นๆ ที่มีน้ำหนักเบา หากเห็นว่าลดราคาลงมาได้ก็จะขอให้ลดลง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง โดยในเรื่องของราคาน้ำมันก็ได้มีการติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเห็นได้ชัดเจนว่าน้ำมันมีแนวโน้มลดลงจริง จึงได้เข้าไปดูแลทันที

นางดวงกมลกล่าวว่า สำหรับกรณีของเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 2557 ที่ลดต่ำลงเหลือ 0.60% แต่ประชาชนยังรู้สึกว่าของแพงขึ้น เพราะน้ำหนักในการคำนวณเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค. ได้รับผลดีจากปัจจัยบวก คือ ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก ทำให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้อลดลง ส่วนสินค้ารายการอื่นๆ ก็มีทั้งลดลง และเพิ่มขึ้น แต่น้ำหนักน้อย เลยทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นไม่มาก

ส่วนราคาอาหารสำเร็จรูปที่ยังสูงขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบหลายรายการยังมีการปรับราคาสูงขึ้น รวมถึงก๊าซหุงต้ม พ่อค้าแม่ค้าจึงไม่ยอมปรับลดราคาลง ซึ่งก็ยอมรับว่าในความเป็นจริงคงลดได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ขึ้นแล้วจะขึ้นเลย แต่กระทรวงพาณิชย์จะส่งเสริมให้มีร้านอาหารหนูณิชย์พาชิมให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการบริโภคอาหารราคาถูกให้แก่ประชาชน

นอกจากนี้ ในส่วนของอาหารปรุงสำเร็จที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ที่ยังคงมีราคาสูง ก็ได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด และที่ผ่านมา ได้มีการขอความร่วมมือให้ห้างอย่าคิดค่าเช่าพื้นที่กับพ่อค้าแม่ค้าในราคาสูงเกินไป เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะผลักภาระมาให้ผู้บริโภคต่อ ซึ่งกำลังดูอยู่ว่าหากมีความจำเป็นก็จะเชิญห้างมาหารือต่อไป

นางดวงกมลกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อปี 2558 ใหม่ ซึ่งจะสอดคล้องกับการคาดการณ์ของกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะขณะนี้สมมติฐานด้านราคาน้ำมันได้ปรับลดลงมามาก ทำให้คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2558 น่าจะลดลงได้อีก จากเดิมที่ประเมินไว้ 1.8-2.5% เนื่องจากเห็นว่าแนวโน้มราคาสินค้าไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะต้นทุนต่างๆ ลดลงมาอย่างเห็นได้ชัด