“พาณิชย์” มั่นใจราคาสินค้าทรงตัวถึงปีหน้าหลังไร้แรงกดดัน แต่ไม่นิ่งนอนใจจัดทีมสายตรวจออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวราคาแบบใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนพ่อค้าแม่ค้าปิดป้ายราคาให้ชัด หากเจอปรับหนัก เผยผ่าน 6 วัน โครงการเทใจ คืนสุข สู่ประชาชน ผลตอบรับดีเกินคาด ประชาชนแห่ซื้อสินค้าคึกคัก คุมเข้มปั๊มน้ำมัน เติมไม่เต็มลิตรเจอดี
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังตรวจสอบการจำหน่ายในโครงการ “เทใจ คืนสุข สู่ประชาชน” ที่ห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า สาขาบางใหญ่ วันที่ 29 ธ.ค.2557 ว่า กรมฯ มั่นใจว่าแนวโน้มราคาสินค้าจากนี้ไปจนถึงปีหน้าจะยังคงทรงตัว และไม่มีการปรับขึ้นราคา เพราะจากการสำรวจสถานการณ์ราคาสินค้าพบว่าส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวและปรับตัวลดลง ซึ่งได้รับผลดีจากการจัดโครงการลดราคาสินค้าของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน และยังมีการลด แลก แจก แถม ของกลุ่มผู้ประกอบการเอง ที่ได้มีการระบายสต๊อกสินค้าเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่
“กรมฯ ประเมินว่าสถานการณ์ราคาสินค้าจะยังเป็นปกติไปจนถึงปีหน้าเพราะแรงกดดันยังไม่มี แต่กรมฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีมาตรการในการดูแลราคาสินค้าอย่างเข้มงวด โดยจะมีการติดตามสถานการณ์เป็นรายสินค้า และมีสายตรวจทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของสินค้า และหากมีปัญหาจะได้เข้าไปจัดการได้ทันที รวมทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค” นายบุณยฤทธิ์กล่าว
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า การร้องเรียนปัญหาราคาสินค้าผ่านสายด่วน 1569 ในรอบปีที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า และการขายเกินราคา ซึ่งกรมฯ ได้มีการตรวจจับและปรับผู้ที่กระทำผิดมาโดยตลอด และขอเตือนผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน หากไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และหากจำหน่ายสินค้าเกินราคาที่กำหนด มีโทษปรับ 1.4 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ที่ผ่านมา กรมฯ ได้มีการเปรียบเทียบปรับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างๆ ที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น และจะดำเนินการตรวจจับกุมต่อเนื่องต่อไป โดยหากประชาชนพบเห็นการเอารัดเอาเปรียบ ทั้งการไม่ปิดป้ายแสดงราคาหรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินจริง ก็ให้ร้องเรียนมายังสายด่วน 1569 ได้ กรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบทันที
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า สำหรับการจัดโครงการ เทใจ คืนสุข สู่ประชาชน ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2557 นั้น ตลอดระยะเวลา 6 วันได้รับแจ้งจากห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ที่เข้าร่วมโครงการว่ามีประชาชนให้การตอบรับเข้ามาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก และห้างส่วนใหญ่ได้มีการระวังในเรื่องการซื้อจำนวนมากและนำไปขายต่อเพื่อให้ประชาชนได้ซื้อสินค้ากันได้อย่างทั่วถึง และขอเชิญชวนประชาชนไปซื้อสินค้าเพราะจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 ธ.ค.นี้แล้ว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าห้างมีการนำสินค้าที่ใกล้หมดอายุหรือสินค้าด้อยคุณภาพมาจำหน่ายแก่ประชาชน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะแต่ละห้างคงไม่เอาชื่อเสียงของตัวเองมาทำลาย และทุกคนที่เข้าร่วมโครงการได้แสดงเจตนาที่ดีกับกระทรวงพาณิชย์ในการนำสินค้าดี ราคาถูก มาจำหน่ายแก่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม หลังจากสรุปโครงการ 7 วัน กรมฯ จะมีการประเมินผลและนำเสนอผลการจัดงานให้ รมว.พาณิชย์ และรัฐบาลรับทราบต่อไป โดยเบื้องต้นยังคงมั่นใจว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท
วันเดียวกันนี้ นายบุณยฤทธิ์ยังได้เดินทางไปตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขานนทบุรี-วงแหวน กม.40 เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อดูแลประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรมในช่วงเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่