“อีซี่ส์” ปรับทัพรุกตลาด ตปท. ดัน “มอร์เก้น” ขึ้นชั้นอินเตอร์

“อีซี่ส์” ปรับทัพรับขยับเชิงรุกปีหน้า วางเป้าดันร้านมอร์เก้นขึ้นตลาดโลก เป้าแรกลุยเออีซีก่อน ประเดิมแต่งตั้งแฟรนไชส์โบรกเกอร์ปีหน้า หลังจากที่ปรับองค์กรดึงมืออาชีพเสริมทัพ เพิ่มกำลังผลิตรองรับแล้ว

นายสุภัค หมื่นนิกร ประธานบริหาร บริษัท อีซี่ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้า (2558) บริษัทฯ วางนโยบายจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น กับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด 3 ส่วน คือ 1. ร้านมอร์เก้น เรสเตอรองต์ส แอนด์ คาเฟ่ 2. ร้านอีซี่ส์ คิทเช่น และ 3. อีซี่ส์ ฟู้ดเซอร์วิส หลังจากที่ช่วง 1-2 ปีมานี้ได้มีการปรับองค์กรในหลายส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมไว้แล้วทั้งในด้านบุคลากร โครงสร้างองค์กร กลยุทธ์ธุรกิจ และแนวทางการลงทุน โดยเฉพาะร้านอาหารแบรนด์ มอร์เก้น เรสเตอรองต์ส แอนด์ คาเฟ่

ทั้งนี้ ในส่วนขององค์กร ได้นักบริหารและนักการตลาดเข้ามาร่วมงานด้วย โดยตนเองขึ้นเป็นซีอีโอ ในส่วนของบอร์ดหรือคณะกรรมการ ได้ผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านอาหารมานานกว่า 30 ปี 1 ท่าน ส่วนตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ได้แต่งตั้งนายสมพงษ์ บวรรัตนวานิช ซึ่งมีประสบการณ์ทางด้านอาหารหลายแบรนด์ ทั้งกลุ่มไมเนอร์ ซีอาร์จี คอฟฟี่เวิลด์ เป็นต้น เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป รวมทั้งยังมีคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการและอบรมอีกด้วย และมีการแยกทีมซัปพลายเชนกับทีมแฟรนไชส์ออกจากกัน

ส่วนด้านการผลิต ปีนี้ลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท เช่น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าไส้กรอกและอื่นๆ จากเดิม 15 ตันต่อวันเป็น 25 ตันต่อวัน มีการลงทุนด้านซอฟต์แวร์หน้าร้าน มีการขยายพื้นที่การผลิตซอส ซุป เพื่อป้อนให้แก่สาขาในโรงงานเดิม เป็นต้น

นายสุภัคกล่าวต่อว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายระยะยาวที่จะผลักดันให้แบรนด์ ร้านอาหารมอร์เก้น เรสเตอรองต์ส แอนด์ คาเฟ่ เป็นโกลบอลแบรนด์ในตลาดโลกให้ได้ โดยเริ่มลำดับแรกเป็นการรุกตลาดเซาท์อีสต์เอเชียก่อน แล้วขยับเป็นตลาดเอเชีย และตลาดโลกในลำดับต่อไป ส่วนในไทยวางเป้าหมายมี 300 สาขาภายในเวลา 10 ปี

แผนปีหน้าตลาดในไทยจะขยายอีก 6 สาขาเป็นของแฟรนไชซี ลงทุนเฉลี่ย 6 ล้านบาทต่อสาขา จากปัจจุบันมีสาขาในไทยแล้ว 11 สาขา แบ่งเป็นของบริษัทฯ 1 สาขา และแฟรนไชซีอีก 10 สาขา อย่างไรก็ตาม จะทำการปรับอิมเมจของร้านใหม่ให้เป็นแบรนด์ มอร์เก้น เรสเตอรองต์ส แอนด์ คาเฟ่ สมบูรณ์แบบ ให้หมดจากเดิมที่เป็น มอร์เก้นบายอีซี่ส์ ซึ่งปรับไปแล้ว 4 สาขา เช่นที่ โครงการเดอะทรี บางบอน, พาลิโอ และที่ลาว และที่เวโรนาเขาใหญ่เป็นร้านเปิดใหม่ ซึ่งบางสาขาจะเปิด 24 ชั่วโมง และมีแผนที่จะใช้กลยุทธ์ซับแอเรียแฟรนไชส์ด้วย

ขณะที่ในต่างประเทศนั้นเปิดสาขาแรกแล้วที่เวียงจันทน์ ลาว เป็นการขขายแฟรนไชส์รายเดี่ยว ลงทุน 15 ล้านบาท พื้นที่ 500 ตารางเมตร มียอดขายเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อเดือน และจะขยายตลาดกลุ่ม CLMV ต่ออีกในช่วง 5 ปีแรกนี้ ส่วนช่วงปีที่ 6-10 จะขยายตลาดไปยังอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น ก่อนที่จะขยายต่อในระดับเอเชีย ซึ่งปีหน้าจะทำการแต่งตั้งแฟรนไชส์โบรกเกอร์ เพื่อเป็นตัวกลางหาผู้ที่สนใจจะซื้อแฟรนไชส์ในต่างประเทศ

สำหรับผลประกอบการในปี 2557 นี้ ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 135 ล้านบาท แต่คาดว่าจะทำได้ประมาณ 125 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์การเมืองครึ่งปีแรก และภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ดี สัดส่วนรายได้มาจาก ร้านมอร์เก้นฯ 60% ร้านอีซี่ส์คิทเช่น 20% และอีซี่ส์ฟู้ดเซอร์วิส 20%