xs
xsm
sm
md
lg

เอสโซ่ไทย 120 ปี ให้อะไรกับสังคม / ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดงานใหญ่ฉลองครบรอบ 120 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ มีประเด็นน่าสนใจครับ
เอสโซ่ (ประเทศไทย) เป็นธุรกิจในเครือของกลุ่มบริษัทเอ็กซอนโมบิล ดำเนินกิจการกลั่นและค้าน้ำมันครบวงจรในเมืองไทย โดยมีธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.โรงกลั่นน้ำมัน มีกำลังการลั่น 177,000 บาร์เรลต่อวัน 2.โรงงานอะโรเมติกส์ ที่มีกำลังการผลิตพาราไซลีน 500,000 ตันต่อปี 3.หน่วยผลิตสารทำละลาย 50,000 ตันต่อปี 4.เครือข่ายปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ที่มี 520 สาขาทั่วประเทศ 5.จำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา และยางมะตอย และผลิตภัณฑ์หล่อลื่น ใช้ชื่อการค้า “เอสโซ่” และ “โมบิล”
กิจการที่มีอายุเกิน 100 ปี และยังยืนยงในระดับที่สง่างาม ก็ต้องถือว่าเป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีค่านิยมความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (CSR) เป็นหลักสำคัญที่ฝังอยู่ในกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กร
กิจการที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศและใฝ่ดีมี CSR จึงลงทุนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างความสำเร็จใน “โครงการน้ำมันสะอาด” ซึ่งจะผลิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง และจะช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศที่ดี
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนที่เราทำทั่วโลก เพื่อลดปริมาณสารกำมะถันในน้ำมันเบนซิน และ น้ำมันดีเซลให้ลดน้อยลง ขณะเดียวกัน ก็สอดคล้องกับข้อกำหนดของรัฐบาลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำมันที่ใช้ในรถยนต์” มงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการและผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัทเอสโซ่ฯ กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า
“เมื่อนำมาใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน น้ำมันซึ่งมีกำมะถันต่ำมากในระดับต่ำที่ 50 ส่วนต่อหนึ่งล้านส่วน หรือ ร้อยละ 0.05 ทั้งในน้ำมันเบนซิน และ น้ำมันดีเซล อีกทั้งยังลดปริมาณสารเบนซีนลงเหลือร้อยละ 1 เท่านั้น จะช่วยลดมลพิษ และทำให้คุณภาพอากาศในเมืองไทยดีขึ้น”
โครงการนี้ ใช้เงินลงทุนไปกว่า 10,000 ล้านบาท มีการปรับปรุงหน่วยผลิตในโรงกลั่น รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน และความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์
นั่นเป็นบทบาทของกลยุทธ์ธุรกิจที่กล่าวได้ว่าหวังดีต่อผู้บริโภคและห่วงใยสิ่งแวดล้อม เรียกว่ามี CSR-in-process ขณะที่เอสโซ่ยังมีกิจกรรมส่งเสริมสังคมและชุมชนที่อยู่นอกเหนือกระบวนทางธุรกิจ (CSR-after-process)
มงคลนิมิตร บอกว่า “เอสโซ่มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างความเจริญสู่ชุมชนที่เราทำงานและอาศัยอยู่ เราภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมที่มีความสำคัญในการพัฒนาทั้งในระดับชุมชน และ ระดับประเทศ ในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึง การศึกษา การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและสุขอนามัย การพัฒนาชุมชน และ การช่วยเหลือผู้ที่ประสบความเดือดร้อนในสังคม”
อย่างเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ที่มีผลกระทบกว้างขวางในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย ในปี 2554 นี้ เอสโซ่ได้ให้ความช่วยเหลือผ่านองค์กรการกุศลต่างๆ และบริษัทแม่ คือ เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น ก็ได้มอบเงินบริจาคร่วมกับพนักงาน ผ่านทางสภากาชาดไทย เป็นจำนวนเงิน 5,300,000 บาท (ห้าล้านสามแสนบาท)
ส่วนโรงกลั่นน้ำมันที่ศรีราชา เอสโซ่ ได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาศักยภาพสตรีและชุมชนแหลมฉบัง ซึ่งได้ช่วยฝึกอบรมสตรีกว่า 600 คนเพื่อให้สามารถพัฒนาความรู้ความสามารถในเชิงธรุกิจ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ พนักงานและครอบครัวชาวเอสโซ่ได้ร่วมกิจกรรมอาสาผ่านทางองค์กรการกุศลที่บริษัทให้การสนับสนุนต่างๆ เช่น โครงการครูอาสาสอนภาษาอังกฤษ และ กิจกรรมในมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ เป็นต้น


ข้อคิด...
ยืนยันเชิงผลลัพธ์ (Outcome) จากผลการดำเนินงาน (Output) ในมิติของความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR นั้นมีความหมายและมีสำคัญนะครับ
เพราะการเป็นที่ยอมรับว่า เป็นกิจการที่ “ดี” คือ สร้างคุณค่าให้สังคมนั้นเป็นคุณลักษณะที่เหนือกว่าผลประกอบการที่ดี ซึ่งนักลงทุนที่ก้าวหน้าถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องทำให้ดี มีความเป็นเลิศ
สิ่งชี้วัดอาจเป็นรางวัล หรือมาตรฐานสากลที่มีเกณฑ์การประเมินอย่างเอาจริงเอาจังจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในเรื่องที่สำคัญและสะท้อนจุดยืนที่ดีในการดำเนินกิจการ
ตัวอย่างกรณี เอสโซ่ (ประเทศไทย) ได้รับรางวัล Best of the Best เรื่องความปลอดภัย ชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยมประจำปี 2556 รางวัล Gold Safty Excellence ด้านสถิติความปลอดภัย 6 ล้านชั่วโมงทำงาน โดยปราศจากการเกิดเหตุที่ทำให้สูญเสียเวลาทำงาน
โดยเฉพาะความเป็นเลิศในการรักษาสภาวะแวดล้อมโดยไม่มีเหตุน้ำมัน หรือเคมีภัณฑ์รั่วไหลต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน นอกเหนือจากการมีกิจกรรมช่วยเหลือและส่งเสริมสังคมมากมาย ล้วนเป็นเรื่องน่าชื่นชม

suwatmgr@gmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น