xs
xsm
sm
md
lg

“อิตัลไทย” ปรับเกมรุกตลาด “ไวน์” ทีมใหม่-เพิ่มพอร์ต-ขายออนไลน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสกนธ์ ศรีวรรณวิทย์ (ที่ 3 จากซ้าย)  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด
“อิตัลไทย” ปรับแผนธุรกิจไวน์รับตลาดแข่งขันรุนแรง สร้างทีมใหม่ขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ระดับราคาไม่แพงเจาะคนรุ่นใหม่ พร้อมผนึก “แมคฟิว่า” เปิดช่องทางขายไวน์สู่ออนไลน์

นายสกนธ์ ศรีวรรณวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องดื่มไวน์จากต่างประเทศรายใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ หลังจากที่ไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจังในช่วง 5 ปีมานี้ ด้วยการสร้างทีมใหม่ การปรับช่องทางจำหน่ายใหม่ การขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้า และการขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 10%

ทั้งนี้ ตลาดไวน์ในช่วงที่ผ่านมายังมีการเติบโตค่อนข้างดีแม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีก็ตาม ประกอบกับมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้นตลอด ทำให้ตลาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% ต่อปี จากมูลค่าตลาดไวน์นำเข้ารวมที่ผ่านกรมศุลกากรประมาณ 1,600 ล้านบาท หรือประมาณ 15,000 ลิตร โดยไวน์นำเข้าขนาดปริมาณบรรจุ 750 มิลลิลิตรอันดับต้นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ชิลี และอิตาลี

นายสกนธ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมาร่วมงานได้ประมาณปีเศษ ส่วนทีมงานใหม่ในปีนี้ เช่น นางสาวพิณ อุตรธิยางค์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย มาจากกลุ่มซี.พี. และนางสาวอนงค์พร มโนพิเชษฐวัฒนา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด มาจากยูนิลีเวอร์ ทำให้ทีมงานมีความพร้อมมากขึ้น

ขณะที่ตัวสินค้านั้น บริษัทฯ มีทั้งไวน์จากโลกเก่าซึ่งมีอัตราส่วนประมาณ 70% และไวน์โลกใหม่ สัดส่วน 30% เช่น ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น โดยจะมีการปรับให้เป็นไวน์จากโลกเก่า 60% และเพิ่มไวน์จากโลกใหม่เป็น 40% ด้วยการขยายสินค้าไวน์ในระดับราคาต่ำมากขึ้นตั้งแต่ 400-500 บาทต่อขวดเพื่อขยายฐานให้กว้างขึ้น ซึ่งในช่วงปลายปีนี้จะมีการนำเข้าไวน์ในระดับราคาไม่แพงประมาณ 4-5 เอสเคยู จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีไวน์จำหน่ายอยู่รวมประมาณ 192 เอสเคยูจากทั้งหมด 16 แบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้ใหญ่ ระดับราคาตั้งแต่ 700-8,000 บาท

ส่วนการขยายช่องทางจำหน่ายนั้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับบริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด ขยายช่องทางจำหน่ายสู่ระบบออนไลน์ ผ่าน www.italthaicellar.com ตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีช่องทางจำหน่ายแบ่งเป็น 3 ช่องทางคือ ช่องทางโฮเรก้า หรือโรงแรม ร้านอาหาร จัดเลี้ยง 40% ช่องทางโมเดิร์นเทรด 50% และช่องทางออนไลน์ 10%

“ในอนาคตมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนออนไลน์เป็น 20-30% และลดสัดส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดเหลือ 20-30% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายด้านค่าธรรมเนียมค่อนข้างมาก อีกทั้งยังจะขยายกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้สอดคล้องกับการขยายพอร์ตสินค้าไปก่อนหน้านี้แล้วคือ การเปิดช่องทางออนไลน์เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตกับโซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้น ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะเข้าถึงผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้นด้วย” นายสกนธ์ กล่าว

ด้าน ดร.ศุภชัย ปาจริยานท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตในระยะยาวคือ การเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตและระบบ 3G ที่เพิ่มขึ้นและก้าวเข้าสู่ยุค 4G ในระยะต่อไป จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตที่มีมากกว่า 50% จากปีที่แล้ว และการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่แพร่หลาย ทำให้คนไทยหันมาชอปปิ้งสินค้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี ด้วยมูลค่าการซื้อขายประมาณ 200,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมไวน์ของอิตัลไทยปีนี้ไว้ที่ 10 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น