รฟม.เปิดซองราคาก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) 4 สัญญา “อิตาเลียนไทย” คว้าสัญญาหลัก วงเงินกว่า 1.5 หมื่นล้าน ส่วนยูนิค และซิโน-ไทย แบ่งเค้ก 3 สัญญาที่เหลือ 1.4 หมื่นล้าน ด้าน “ช.การช่าง” ไม่เข้าวิน เสนอสูงกว่าทุกสัญญา รฟม.เร่งสรุปผลต้นปี 58 วางแผนเซ็นสัญญาใน เม.ย.-พ.ค. ตอกเข็ม มิ.ย. 58
นายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคางานโยธาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สัญญาที่ 1-4 ระยะทาง 18.2 กิโลเมตร วงเงินรวม 29,109 ล้านบาท เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ทำการเปิดซองหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอเอกสารประกวดราคา ซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติ) และ
ซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) แล้ว ล่าสุดได้มีการเปิดซองข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านราคา) ผู้ยื่นซองเอกสารประกวดราคาทั้ง 5 ราย ปรากฏว่า
สัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร) วงเงิน15,423.48 ล้านบาท (รวม Provisional sum และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรากฏว่าบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เสนอราคาต่ำสุดที่ 15,279.99 ล้านบาท 2. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด, SINOHYDRO CORPORATION LIMITED, CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED) เสนอราคา 15,410 ล้านบาท 3. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เสนอราคา 15,550 ล้านบาท 4. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เสนอราคาที่15,570 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 (งานก่อสร้างช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร) วงเงินรวม 6,738.44 ล้านบาท ปรากฏว่ากลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,729 ล้านบาท 2. บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เสนอราคา 6,740 ล้านบาท 3. บมจ.ช.การช่าง เสนอราคา 6,890 ล้านบาท 4. บมจ.ซิโน-ไทย เสนอราคา 6,912.74 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 (งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและพื้นที่จอดรถไฟฟ้า Depot and Park & Ride) วงเงินรวม 4,079 ล้านบาท ปรากฏว่ากลุ่ม STEC-AS-3 JOINT VENTURE (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, A.S.ASSOCIATED ENGINEERING (1964) COMPANY LIMITED) เสนอราคาต่ำสุด 4,042ล้านบาท 2. บมจ.ช.การช่าง เสนอราคา 4,210 ล้านบาท 3. บมจ.อิตาเลียนไทย เสนอราคา 4,220 ล้านบาท 4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาที่ 4,250 ล้านบาท
สัญญาที่ 4 (งานระบบราง) วงเงินรวม 2,869 ล้านบาท ปรากฏว่ากลุ่ม STEC-AS-4JOINT VENTURE เสนอราคาต่ำสุด ที่ 2,842 ล้านบาท 2. บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เสนอราคา 2,860 ล้านบาท 3. บมจ.ช.การช่าง เสนอราคาที่ 2,950 ล้านบาท 4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาที่ 3,020 ล้านบาท
โดยนายสัจจพงศ์กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการประกวดราคาฯ จะพิจารณาความถูกต้องของราคาที่แต่ละรายเสนอ ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ และในเดือนมกราคม 2558 จะเชิญผู้ที่ได้รับคัดเลือกในแต่ละสัญญามาเจรจา พร้อมกันนี้คาดว่าจะสามารถสรุปผลประกวดราคาเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จากนั้นจะรายงานต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รับทราบต่อไป โดย รฟม.คาดว่าจะสามารถลงนามกับผู้รับงานทั้ง 4 สัญญาได้ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2558 และเริ่มงานก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1,350 วัน หรือ 4 ปี