ทัพนักธุรกิจจาก 15 ประเทศ 40 บริษัทแห่ชอปสินค้าไทย “ฉัตรชัย” มั่นใจช่วยเพิ่มยอดส่งออกได้เพิ่มขึ้น ยันปีหน้าเดินหน้าดันส่งออกโต 4% แม้เศรษฐกิจโลกยังไม่ดี สั่งทูตพาณิชย์รักษาตลาดเก่า เพิ่มยอดตลาดใหม่ พร้อมเร่งทำยุทธศาสตร์ส่งออกปี 58 ให้สรุปภายใน ธ.ค.นี้
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการจับคู่ธุรกิจการค้าระหว่างผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้ารายสำคัญว่า ทูตพาณิชย์ได้นำคณะผู้ซื้อรายใหญ่จากภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป ละตินอเมริกา แอฟริกา รัสเซีย และซีไอเอส รวม 15 ประเทศ ประมาณ 40 บริษัท มาเจรจาจับคู่ธุรกิจ (บิสิเนส แมชชิ่ง) กับผู้ส่งออกของไทยกว่า 100 ราย ในหลายกลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เครื่องใช้ในครัวเรือน และเครื่องประดับ เป็นต้น คาดว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ผู้นำเข้าจะมีคำสั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ผมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ไทยทั่วโลกนำคณะผู้ซื้อมาเจรจาซื้อสินค้ากับผู้ส่งออกไทย เพื่อผลักดันยอดการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
สำหรับการส่งออกไทยในปี 2558 กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวที่ 4% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ต้องทำงานให้ได้ เพราะปีหน้าเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีนัก ซึ่งได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์พยายามเร่งเจาะตลาดให้มากขึ้น ทั้งรักษาตลาดเก่า ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอาเซียน จีน รัสเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดให้จัดทำยุทธศาสตร์การส่งออกไทยในปี 2558 โดยล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการจัดทำร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้
นานอีแวน โนวิคอฟ ผู้นำเข้าสินค้าจากบริษัท ดีวี-ทรานซิท จำกัด จากรัสเซีย กล่าวว่า มีความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทย ทั้งเนื้อหมูแช่เย็นแช่แข็ง และไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง จากก่อนหน้านี้นำเข้าจากบราซิล โดยมองว่าไทยอยู่ใกล้กับรัสเซียมากกว่า และมีศักยภาพในการผลิตอาหาร ผลิตสินค้ามีคุณภาพมาตรฐาน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำเข้าประมาณ 25,000 ตันต่อปี ซึ่งได้เจรจากับบริษัท เบทาโกร และเครือเจริญโภคภัณฑ์แล้ว
ส่วนกรณีที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรจากสหภาพยุโรป (อียู) กรณีที่ให้การสนับสนุนกบฏในยูเครนนั้น เห็นว่าจะเป็นโอกาสที่ทำให้รัสเซียสามารถมองหาการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆ ได้มากขึ้น
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์การส่งออกสินค้าไทยปี 2558 จะประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ส่งเสริมและผลักดันการส่งออก การนำเข้า และการลงทุน จากที่ผ่านมาจะมีแต่ยุทธศาสตร์การส่งออกเท่านั้น โดยในยุทธศาสตร์จะมีมาตรการส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการของไทยไปลงทุนในต่างประเทศ มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการแสวงหาวัตถุดิบคุณภาพดี ราคาถูก
สำหรับกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ จะจัดขึ้นตลอด 3 เดือนจากนี้ไป หรือตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2557-ก.พ. 2558 โดยจะมีนักธุรกิจจากภูมิภาคอื่นๆ เดินทางมาไทยอีก เช่น อาเซียน ตะวันออกกลาง จีน เป็นต้น
