ขายแพงเจอดีแน่ “พาณิชย์” ขู่จัดหนักหากพบฉวยโอกาสขึ้นราคา หลังผลวิเคราะห์ต้นทุนไม่เพิ่ม

“พาณิชย์” ขู่จัดหนักพวกฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ยันผลศึกษาไม่พบต้นทุนเพิ่ม ลั่นเอาจริง ส่งสายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบราคาถี่ขึ้น และตรวจแบบจู่โจมมากขึ้น เผยใครขายแพงเจอกันแน่ เล็งใช้มาตรการตั้งแต่เบาไปหาหนักเริ่มจากปรับถึงจำคุก พร้อมขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน หลังพ้นมาตรการขอความร่วมมือสิ้น พ.ย.นี้

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ทำการศึกษาต้นทุนในการผลิตสินค้าต่างๆ พบว่าต้นทุนในการผลิตส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น มีแต่ทรงตัวและลดลง หากผู้ผลิต ผู้ประกอบการรายใดขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้จะถือเป็นการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน กรมฯ จะดำเนินการตามกฎหมายตั้งแต่ขั้นเบาสุดไปจนถึงหนักสุด คือ เริ่มจากปรับและมีโทษจำคุก เพราะถือเป็นการซ้ำเติมประชาชน และขณะนี้เศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ก็อยากให้ร่วมมือกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“ขอความร่วมมือกัน อย่าซ้ำเติมเศรษฐกิจ เพราะต้นทุนไม่ได้สูงขึ้น เราวิเคราะห์ต้นทุนตลอด ไม่พบสัญญาณวัตถุดิบรายการใดผิดปกติ ถ้าไม่เชื่อกัน เราจะดำเนินการตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ไปจนถึงการปรับตามกฎหมาย หรือถ้าให้แรงก็มีโทษถึงจำคุก อย่าให้ถึงขั้นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างแรง”

นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ตั้งแต่นี้ไปกรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ โดยได้จัดให้มีสายตรวจออกตรวจสอบราคาสินค้าเป็นประจำทุกวัน วันละ 10 สาย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัดก็มีค้าภายในจังหวัดออกตรวจสอบ และจะเพิ่มการตรวจสอบแบบจู่โจมมากขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าจนเกินควร ขอเตือนไว้ว่าตรงไหนแพง ระวังให้ดี กรมฯ จะเข้าไปตรวจสอบให้หมด

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ต้นทุน โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จ พบว่า วัตถุดิบในการผลิตอาหารส่วนใหญ่ทรงตัวและปรับลดลง เช่น น้ำมันพืช ราคาขณะนี้ 38-39 บาทต่อขวดลิตร น้ำมันถั่วเหลือง ราคาทรงตัวที่ 55 บาทต่อขวด ขณะที่เนื้อสุกร ไข่ไก่ ก็มีราคาลดลง รวมถึงผักสดต่างๆ ทำให้กรมฯ ไม่ต้องประกาศราคาแนะนำ โดยเฉพาะเนื้อสุกร ส่วนราคาก๊าซหุงต้มแม้จะปรับเพิ่มขึ้น แต่เมื่อวิเคราะห์ลงไปแล้วก็พบว่ากระทบต้นทุนเพียงแค่จานละไม่กี่สตางค์ จึงไม่ควรใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคา

สำหรับต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ พบว่าส่วนใหญ่ทรงตัว และราคาลดลง โดยเฉพาะต้นทุนน้ำมันดีเซล ที่เป็นต้นทุนหลักในการขนส่ง ราคาก็ลดลงอยู่ที่ลิตรละ 29.39 บาท จึงไม่มีแรงกดดันต่อต้นทุนการขนส่งและกระทบต่อต้นทุนสินค้า

นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า กรมฯ ยังได้มีการหารือกับผู้ประกอบการในหลายๆ กลุ่มสินค้าตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ขอให้ดูแลภาวะราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งผลการหารือได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการที่จะตรึงราคาสินค้าต่อไป แม้จะพ้นช่วงที่ขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าในสิ้นเดือน พ.ย. 2557 ที่จะถึงนี้ เพราะต้นทุนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นข่าวดีเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนที่จะได้เบาใจในการจับจ่ายใช้สอย

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ไม่ได้ปิดกั้นในการปรับขึ้นราคาสินค้า หากผู้ผลิตมีต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นจริงก็สามารถที่จะเข้ามาหารือกับกรมฯ ได้ ซึ่งกรมฯ จะพิจารณาให้ตามความเป็นจริง เพราะได้ยึดหลักกลไกตลาดเสรี และไม่บิดเบือนกลไกตลาด เพียงแต่ว่าจะบริหารจัดการให้ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภคอยู่ร่วมกันได้ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดือดร้อน