ทอท.เผยแผนพัฒนาสนามบินในความดูแลกว่า 1 แสน ลบ. ตั้งเป้าระดมทุนครั้งเดียว ได้เม็ดเงินครอบคลุมหมด เล็ง 3 แนวทาง กู้เงิน, ออกพันธบัตร, ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คาดได้ข้อยุติชัดเจนใน ม.ค. 58 “ประสงค์” ยันเงินสดในมือและรายได้มากพอสำหรับพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ด้าน “ประจิน” สั่งปรับบริการฟรีโซน ยกระดับเป็นฮับในภูมิภาค ทั้งการขนส่งสินค้าแบบทั่วไปและปลอดภาษี
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยมีผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รายงานการดำเนินงานในด้านต่างๆ โดย พล.อ.อ.ประจินเปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเน้นเรื่องบริการและความปลอดภัย โดย ทอท.ได้รายงานเรื่องการปรับปรุงการให้บริการในทุกด้าน และแผนการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ซึ่งจะมีการก่อสร้างทางวิ่งสำรอง การปรับปรุงลานจอด อาคารผู้โดยสาร และอุโมงค์ระบบขนส่ง พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าหมายให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้า (ฮับ) โดยมีทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าปลอดอากร
ทั้งนี้ กรณีที่บางช่วงเวลามีผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่นทำให้มีผู้โดยสารตกค้างหรือใช้เวลาที่บริเวณตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เป็นเวลาเกิน 1 ชั่วโมงนั้น ได้กำชับให้หามาตรการเสริม เช่น เพิ่มเจ้าหน้าที่ หรือจัดช่องทางด่วนแบบ Fast Track เพื่อจัดการบริการให้รวดเร็วขึ้นและลดระยะเวลาจาก 1 ชั่วโมงให้เหลือ 45 นาที, 30 นาที และ 15 นาที ตามลำดับให้ได้ เพื่อให้บริการที่ดีขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ให้ความมั่นใจว่า สุวรรณภูมิจะเป็นด่านสกัดกรณีที่มีผู้ติดเชื้ออีโบลาได้แน่นอน
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังศึกษาแนวทางจัดหาแหล่งเงินทุนมาพัฒนาท่าอากาศยานในความดูแลของ ทอท. ซึ่งเบื้องต้นจะมีการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป โดยพิจารณาใน 3 แนวทาง คือ 1. กู้จากสถาบันการเงิน 2. ออกพันธบัตร และ 3. จัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อยุติภายในเดือนมกราคม 2558 โดยจะเลือกแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อ ทอท. และผู้ถือหุ้นมากที่สุด
โดยจะมีการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงินรวม 85,000 ล้านบาท แบ่งเป็นช่วงแรก วงเงินประมาณ 65,000 ล้านบาท เช่น ก่อสร้างทางวิ่งสำรอง (รันเวย์) เบื้องต้นความยาว 2,900 เมตร วงเงินลงทุน 19,000 ล้านบาท , การก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานระยะไกล จำนวน 28 หลุมจอด และงานก่อสร้างอุโมงค์ส่วนต่อขยาย เพื่อใช้เป็นถนนเชื่อมต่อในเขตปฏิบัติการบิน รวมถึงงานไฟฟ้าเครื่องกลภายในอุโมงค์ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค วงเงินรวม 18,000 ล้านบาท, การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านทิศเหนือของท่าอากาศยาน (Multi-Function Terminal) พื้นที่รวม 214,000 ตารางเมตร วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท และช่วงที่ 2 จะเป็นการออกแบบและก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Midfield Satellite) วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท และพัฒนาท่าอาอากาศยานภูเก็ต วงเงิน 5,000 ล้านบาท รวมทั้งแผนพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าปลอดอากร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาและยังไม่สามารถระบุกรอบวงเงินที่ชัดเจนได้
ส่วนจัดหาแหล่งเงินทุนมาลงทุนนั้นอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะได้ข้อยุติภายใน มกราคม 2558 โดยเป็นไปได้ทั้งแนวทางการกู้จากสถาบันการเงิน, ออกพันธบัตร หรือจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะเลือกแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อ ทอท.และผู้ถือหุ้นมากที่สุด
“ทอท.มีเงินสดในมือประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาท และมีรายได้ที่เพียงพอสามารถนำมาลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ได้โดยไม่ต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่ม แต่ในการพิจารณาแหล่งเงินทุนครั้งนี้จะดูในภาพรวม ซึ่ง ทอท.มีแผนในการพัฒนาท่าอากาศยานทั้งหมดที่มี ทั้งดอนเมือง ภูเก็ต และการพัฒนาพื้นที่ฟรีโซนด้วย เพื่อวางแผนระดมทุนด้วยกัน” นายประสงค์กล่าว