“พาณิชย์” หารือผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิไทยจากฮ่องกง 40 ราย ทำแผนดึงส่วนแบ่งตลาดกลับคืน หลังเสียให้คู่แข่งช่วงข้าวไทยแพงตอนรับจำนำราคาสูง แนะให้จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองเป็นภาษาจีนทั้งในฮ่องกงและจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและป้องกันปัญหาปลอมปน ด้านทูตพาณิชย์เผยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ผู้นำเข้ามาไทย นำลงพื้นที่ดูการปลูกข้าว ดูวิธีการสี มั่นใจทวงส่วนแบ่งตลาดคืนได้แน่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับคณะผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกงจำนวน 40 รายที่ได้เดินทางมาเยือนไทยว่า ได้ตกลงที่จะทำตลาดข้าวหอมมะลิไทยในฮ่องกงร่วมกัน เพื่อดึงส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทยให้กลับคืนมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ข้าวหอมมะลิไทยมีราคาแพงขึ้นจากการใช้โครงการรับจำนำข้าวในราคาสูง ทำให้ข้าวไทยราคาแพงกว่าคู่แข่ง จนเสียส่วนแบ่งตลาดในฮ่องกงไป จากเดิมที่เคยครองตลาดอยู่ถึง 90% ได้ลดลงมาเหลือ 40-50% โดยเฉพาะกลุ่มภัตตาคารและร้านอาหารที่ซื้อลดลง
“จากการหารือร่วมกัน เชื่อว่าไทยมีโอกาสที่จะดึงส่วนแบ่งทางการตลาดของข้าวหอมมะลิไทยกลับคืนมาได้ เพราะขณะนี้ระดับราคาข้าวหอมมะลิไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และผู้ซื้อในฮ่องกงยอมรับในราคาได้ ที่สำคัญข้าวไทยมีคุณภาพดี เป็นที่ยอมรับ ผู้นำเข้าจึงมีความเชื่อมั่นมากกว่าข้าวของคู่แข่ง”
ทั้งนี้ แนวทางในการดึงส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทยในฮ่องกงกลับคืน ผู้นำเข้าได้เสนอให้ไทยเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ข้าวหอมมะลิไทยในด้านคุณภาพ โดยการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยของกรมการค้าต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และขอให้ไทยจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองเป็นภาษาจีน จากเดิมที่ใช้คำภาษาอังกฤษว่า Thai Hom Mali Rice โดยให้จดทั้งในฮ่องกงและจีน เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น และยังเป็นการป้องกันปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยด้วย
ขณะเดียวกัน ฮ่องกงยังได้เชิญให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่ฮ่องกง ที่จะจัดขึ้นในเดือน ส.ค. 2558 เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้ผู้บริโภคชาวฮ่องกงด้วย
นอกจากนี้ ไทยยังมีแผนที่จะประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิชนิดอื่นๆ ในตลาดฮ่องกง เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิท้องถิ่นชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีในแต่ละพื้นที่ของไทย ส่วนในตลาดอื่นๆ ที่ซื้อข้าวหอมมะลิจากไทย เช่น สิงคโปร์ ก็จะเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน โดยจะทำให้ผู้ซื้อมีความเชื่อมั่นว่าข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวคุณภาพสูง มีมาตรฐานระดับโลก
นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับปัญหาการส่งมอบข้าวตามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับคอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน จากการหารือได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ โดยคอฟโกกับผู้ส่งออกสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวได้แล้ว และจะเริ่มส่งออกข้าวล็อตที่ 4 ในเดือน ธ.ค. 2557 นี้ แต่อาจจะมีบางส่วนเป็นข้าวหอมมะลิ ซึ่งวิธีการคงจะใช้วิธีเดิม โดยให้ผู้ส่งออกไปซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ปี 2557/2558 ไปส่งมอบ
นายวิทยากร มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ประเทศจีน กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง 40 รายเดินทางมาเยือนไทย ซึ่งนอกจากการเข้าหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ยังได้นำคณะไปชมวิธีการปลูกข้าวหอมมะลิไทยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และยโสธร เพื่อไปดูขั้นตอนการปลูกข้าว การสีข้าว เพื่อให้ผู้นำเข้ามีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าแผนการดังกล่าวจะช่วยให้ไทยสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิไทยกลับคืนมาจากคู่แข่งได้อย่างแน่นอน โดยคาดว่าในปี 2588 ไทยจะส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น 2% จากปีนี้
แหล่งข่าวจากวงการผู้ส่งออกข้าวกล่าวว่า สมาคมฯ มีการหารือถึงแนวทางการผลักดันการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยในตลาดฮ่องกง โดยเสนอแนวทางการตั้งกองทุนเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าพรีเมียมให้แก่ผู้นำเข้าฮ่องกงที่ทำยอดได้สูงตามเป้าหมาย เช่น ทำยอดเพิ่มได้เท่าไร จะได้รับค่าพรีเมียมเท่าไร ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางการตั้งกองทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้