กรมการขนส่งฯ เผย พบรถตู้โดยสารสาธารณะแอบขูดแผ่นป้ายทะเบียนและขูดลบระบบ RFID หลบเลี่ยงตรวจจับความเร็ว สั่งเจ้าหน้าที่กวดขัน พบทำผิดโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า จากที่ได้นำระบบเทคโนโลยี RFID มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางยกระดับโทลล์เวย์ ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษและทางหลวงแผ่นดินซึ่งครอบคลุมเส้นทาง ในระยะรัศมี 300 กิโลเมตรรอบกรุงเทพมหานคร รวม 11 เส้นทาง มาตั้งแต่เมษายน 2555 พร้อมจัดชุดผู้ตรวจการออกปฏิบัติงานตรวจจับความเร็วของรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องตรวจจับความเร็ว (กล้องเลเซอร์) ในเส้นทางหลักเข้า-ออกกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัดนั้น พบว่าปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถหรือผู้ขับรถโดยสารสาธารณะบางรายได้ฝ่าฝืนกฎหมายโดยทำการขูดหรือขัดถูแผ่นป้ายทะเบียนรถให้สีเจือจางลงหรือใช้วัสดุอื่นปิดทับหมายเลขทะเบียนรถเพื่อไม่ให้ระบบเทคโนโลยี RFID สามารถอ่านเลขทะเบียนรถได้ชัดเจน อีกทั้งยังมีรถตู้โดยสารสาธารณะบางส่วนไม่ติดเครื่องหมายตรวจจับความเร็วด้วยระบบ RFID หรือมีการขูดลบทำลายเครื่องหมาย RFID เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับความเร็วที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด
โดย ขบ.ได้สั่งการให้นายทะเบียน พนักงานตรวจสภาพรถ และผู้ตรวจการทุกสำนักงานขนส่งทั่วประเทศเข้มงวดกวดขันการตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หากพบป้ายทะเบียนถูกขูดหรือขัดถูให้สีเจือจางลง ใช้วัสดุอื่นปิดทับหมายเลขทะเบียนรถ หรือพบรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ติดเครื่องหมายตรวจจับความเร็วด้วยระบบ RFID หรือมีการขูดลบทำลายเครื่องหมาย RFID ให้แจ้งผู้ประกอบการขนส่งหรือเจ้าของรถหรือผู้ขับรถดำเนินการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถใหม่หรือแก้ไขให้ถูกต้อง รวมทั้งกำชับให้รถตู้โดยสารสาธารณะต้องเร่งติดเครื่องหมายตรวจจับความเร็วด้วยระบบ RFID ให้ถูกต้องด้วย
สำหรับผู้ขับรถโดยสารสาธารณะที่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หากกระทำผิดครั้งที่ 1 จะถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท กระทำผิดครั้งที่ 2 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท กระทำผิดครั้งที่ 3 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 15 วัน ครั้งที่ 4 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 30 วัน และครั้งที่ 5 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ