“บิ๊กจิน” สั่งเคลียร์สิ่งกีดขวางแก้จราจร ถ.วิภาวดีหน้าดอนเมือง

“ประจิน” สั่งแก้จราจรหน้าสนามบินดอนเมือง เล็งย้ายตอม่อ แลมป์ทางยกระดับเข้าสนามบินเพิ่มช่องจราจรระบายรถขาออก เร่งออกแบบใน ธ.ค.นี้ ด้านกรมทางหลวงระบุต้องเจรจาร่วม ร.ฟ.ท.และ ทอท.บูรณาการใช้พื้นที่ร่วมกัน เร่งจัดระเบียบจอดรถหน้าสถานีรถไฟขวางเลนซ้ายแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวทางการแก้ปัญหาจราจรถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก บริเวณหน้าท่าอากาศยานดอนเมืองที่เป็นคอขวดในเบื้องต้นแล้ว โดยหลักการจะต้องทำให้ผิวจราจรมีไม่ต่ำกว่า 3 ช่องจราจรตลอดเส้นทาง ซึ่งจะต้องหาทางเคลียร์พื้นที่หรือสิ่งที่กีดขวางเป็นอุปสรรคบนผิวจราจรออกไป โดยถนนวิภาวดีรังสิตหน้าสนามบินดอนเมืองเรื่อยไปจนถึงหน้าสถานีรถไฟดอนเมืองจะมี 3-4 ช่องจราจร แต่พบว่าหน้าสถานีรถไฟช่องจราจรด้านซ้ายสุด มักมีรถแท็กซี่ รถตู้ จอดขวาง ทำให้เหลือช่องทางวิ่งเพียง 2 ช่องจราจร ในขณะเดียวกัน เมื่อเลยสถานีรถไฟแล้วจะมีสะพานยกระดับเข้าสู่สนามบินดอนเมือง ซึ่งทำให้รถต้องเบี่ยงออก โดยรถส่วนใหญ่จะไม่เบี่ยงไปใช้ช่องทางด้านซ้ายติดทางรถไฟสุด จะไม่ค่อยมีรถวิ่งไปเนื่องจากพื้นถนนเป็นเนิน จึงมักเบียดเข้าด้านขวาที่เหลือ 2 ช่องจราจร ทำให้ตัดกระแสทำให้การจราจรติดขัด

ทั้งนี้ มีแนวคิดที่จะปรับย้ายทางขึ้นทางยกระดับเข้าสนามบินดอนเมืองเพื่อเปิดช่องทางจราจร ซึ่งมอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) ไปพิจารณาออกแบบให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจะมีการพิจารณางบประมาณในการลงทุนต่อไป ซึ่งอาจจะเสนอขอใช้งบกลางปี เพื่อเร่งดำเนินการทำเป็นโมเดลนำร่องในการแก้ปัญหาจราจรในถนนที่มีปริมาณรถมากและมีสภาพเป็นคอขวด

นายชูศักดิ์ เกวี อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า หลักการแก้ปัญหาจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ขาออกบริเวณหน้าสนามบินดอนเมือง ที่สามารถดำเนินการได้เลยคือ การจัดระเบียบจราจรหน้าสถานีรถไฟดอนเมือง โดยห้ามรถโดยสาร รถแท็กซี่ และรถสาธารณะจอดกีดขวาง ระยะที่ 2 จะเจรจากับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อขอความร่วมมือในการเคลียร์พื้นที่ปรับพื้นผิวจราจรบริเวณถนนโลคัลโรดให้เรียบและมีช่องจราจรชัดเจน เพื่อใหัรถสามารถใช้ได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้รถที่จะเบี่ยงมาทางด้านเลนขวาลดลง

ส่วนกรณีการปรับย้ายแลมป์ขึ้นทางยกระดับเข้าสนามบินดอนเมืองไปใช้พื้นที่โลคัลโรดแทนเพื่อเปิดพื้นที่ถนนวิภาวดีรังสิตให้เป็น 3 ช่องจราจรนั้น อาจจะต้องใช้เวลาเพราะต้องวางแผนและบูรณาการร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ กรมทางหลวง การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะเจ้าของพื้นที่โลคัลโรด และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งเป็นเจ้าของทางยกระดับเข้าสนามบินดอนเมือง นอกจากนี้ จะต้องพิจารณาถึงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงที่จะต้องมีการปรับสถานีใหม่ จึงต้องหารือกับ ร.ฟ.ท.ว่าแบบของสถานีรถไฟดอนเมืองจะเป็นอย่างไรในอนาคตเพื่อวางแผนให้สอดคล้องกัน