ฮอนด้า แอคคอร์ด จอดไว้ที่ดอนเมืองล้อหายอีกแล้ว คราวนี้จอดในลานจอด 7 ชั้น เสียเงินวันละ 250 บาท ด้าน ผอ.โบ้ยไปถามฝ่ายสื่อสารองค์กรแทน สน.ดอนเมืองระบุยังไม่มีใครแจ้งความ เผยไกล่เกลี่ยกันแล้ว เจ้าของรถไม่เอาความ
วานนี้(13ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข่าวแพร่สะพัดในโลกโซเชี่ยวว่ามีคนร้ายขโมยล้อรถของรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำ ป้ายแดง จำนวน 4 ล้อ ซึ่งเจ้าของรถนำมาจอดไว้ที่อาคารจอดรถ 7 ชั้น ของสนามบินดอนเมือง ที่มีการเสียเงินค่าจอดรถวันละ 250 บาท โดยจอดไว้ที่ ชั้น 6 บี ซึ่งเป็นอาคารที่ต้องเสียเงินค่าจอดรถวันละ 250 บาท
ร.ท.ทรงศักดิ์ แท่นทอง รรท.ผอ.การท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ให้ไปถามฝ่ายสื่อสารองค์กรของท่าอากาศยานดอนเมืองเอง ตนเองไม่ขอตอบ และไม่มีหน้าที่ตอบคำถาม
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ชั้น 6 บี อาคารจอดรถ 7 ชั้นของสนามบินดอนเมืองนั้นพบว่าบริเวณรถยนต์ที่เป็นข่าวในรูปนั้นมีการนำแผงเหล็กมากั้นไว้ พร้อมใช้ผ้าคุมรถฮอนด้าที่เป็นข่าว มีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราอยู่ตลอด และไม่ยินยอมให้ทำข่าวแต่อย่างใด
จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำชั้น กล่าวว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมาผู้เสียหายได้เข้ามาตรวจสอบรถและลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจ สน.ดอนเมือง เรียบร้อย ทั้งนี้เจ้าของรถดังกล่าวได้ตกลงไม่เอาความกับท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง ส่วนแยกท่าอากาศยาน ระบุว่า จากการตรวจสอบเมื่อคืน(12ต.ค.)จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และตนไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆได้
***เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง
นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน กรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)) รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า สำหรับการติดตามผู้ก่อเหตุ ทอท.ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับ สน.ดอนเมือง (ส่วนแยก) เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้น ในวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ทอท.ได้จัดประชุมกับส่วนงาน ทอท.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย ทดม.ได้แก่ การเปิดตรวจท้ายรถที่ออกจากอาคารที่จอดรถทุกคัน หากสงสัยจะขอเปิดตรวจตอนขาเข้าจอดรถในอาคารด้วย การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ รปภ.รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป
กรณีที่มีผู้ใช้บริการ ณ ทดม.ที่ถูกโจรกรรมล้อรถนั้น ขณะนี้บริษัทผู้รับจ้างที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการนำล้อรถยนต์มาใส่ให้กับรถยนต์คันดังกล่าว และผู้เสียหายได้นำรถยนต์ออกไปจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
วานนี้(13ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข่าวแพร่สะพัดในโลกโซเชี่ยวว่ามีคนร้ายขโมยล้อรถของรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำ ป้ายแดง จำนวน 4 ล้อ ซึ่งเจ้าของรถนำมาจอดไว้ที่อาคารจอดรถ 7 ชั้น ของสนามบินดอนเมือง ที่มีการเสียเงินค่าจอดรถวันละ 250 บาท โดยจอดไว้ที่ ชั้น 6 บี ซึ่งเป็นอาคารที่ต้องเสียเงินค่าจอดรถวันละ 250 บาท
ร.ท.ทรงศักดิ์ แท่นทอง รรท.ผอ.การท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ให้ไปถามฝ่ายสื่อสารองค์กรของท่าอากาศยานดอนเมืองเอง ตนเองไม่ขอตอบ และไม่มีหน้าที่ตอบคำถาม
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ชั้น 6 บี อาคารจอดรถ 7 ชั้นของสนามบินดอนเมืองนั้นพบว่าบริเวณรถยนต์ที่เป็นข่าวในรูปนั้นมีการนำแผงเหล็กมากั้นไว้ พร้อมใช้ผ้าคุมรถฮอนด้าที่เป็นข่าว มีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราอยู่ตลอด และไม่ยินยอมให้ทำข่าวแต่อย่างใด
จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำชั้น กล่าวว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมาผู้เสียหายได้เข้ามาตรวจสอบรถและลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจ สน.ดอนเมือง เรียบร้อย ทั้งนี้เจ้าของรถดังกล่าวได้ตกลงไม่เอาความกับท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการ สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง ส่วนแยกท่าอากาศยาน ระบุว่า จากการตรวจสอบเมื่อคืน(12ต.ค.)จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และตนไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆได้
***เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง
นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน กรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)) รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า สำหรับการติดตามผู้ก่อเหตุ ทอท.ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับ สน.ดอนเมือง (ส่วนแยก) เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้น ในวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ทอท.ได้จัดประชุมกับส่วนงาน ทอท.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย ทดม.ได้แก่ การเปิดตรวจท้ายรถที่ออกจากอาคารที่จอดรถทุกคัน หากสงสัยจะขอเปิดตรวจตอนขาเข้าจอดรถในอาคารด้วย การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ รปภ.รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป
กรณีที่มีผู้ใช้บริการ ณ ทดม.ที่ถูกโจรกรรมล้อรถนั้น ขณะนี้บริษัทผู้รับจ้างที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการนำล้อรถยนต์มาใส่ให้กับรถยนต์คันดังกล่าว และผู้เสียหายได้นำรถยนต์ออกไปจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
