xs
xsm
sm
md
lg

“ซูเปอร์ฯ-ไฮเปอร์ฯ” โตแค่ 3% “มอลล์” ลุยตลาดกระเช้าหวัง 220 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ค้าปลีกครึ่งปีแรกซบ กระทบตลาดเซกเมนต์ซูเปอร์มาร์เกต-ไฮเปอร์มาร์เกต โตต่ำแค่ 3% เดอะมอลล์รุกหนักยังหวังปีนี้กูร์เม่ต์มาร์เก็ตกับโฮมเฟรชมาร์ทโตตามเป้า 5% อัด 20 ล้านบาทเปิดแคมเปญกระเช้าปีใหม่ ดึงกูรูชาวต่างชาติร่วมจัดและคัดเลือกสินค้ากระเช้า หวังยอดขายกระเช้าปีใหม่ 220 ล้านบาทเฉพาะช่วงเทศกาล

นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เกต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโฮมเฟรชมาร์ทและกูร์เม่ต์มาร์เก็ต เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกโดยรวมทั้งระบบในไทยปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท เติบโตเล็กน้อย โดยกลุ่มที่เติบโตมากที่สุดคือคอนวีเนียนสโตร์ ที่ผลักดันตลาดรวมให้เติบโต

ส่วนกลุ่มซูเปอร์มาร์เกตและไฮเปอร์มาร์เกตรวมกันเติบโตแค่ 3% ในปีนี้ซึ่งต่ำมาก เป็นผลกระทบมาจากปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองและการชุมนุมตั้งแต่ปลายปีจนถึงกลางปีนี้ และปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลง ส่งผลต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงประมาณ 10% ต่อบิล และความถี่ในการจับจ่ายซูเปอร์มาร์เกตกับไฮเปอร์มาร์เกตลดลงเหลือ 2 อาทิตย์ต่อครั้งจากเดิม 1 อาทิตย์ต่อครั้ง

ในส่วนของซูเปอร์มาร์เกตของเดอะมอลล์ ช่วงครึ่งปีแรกรายได้ทรงตัว แต่ครึ่งปีหลังเริ่มดีขึ้นบ้างเติบโต 5% ตามตลาดรวม ประกอบกับมีการปิดปรับปรุงสาขาที่เอ็มโพเรียมจะเปิดต้นเดือนธันวาคมนี้ และที่สยามพารากอน และเดอะมอลล์บางแค งบรวม 400 ล้านบาท และเปิดสาขาใหม่ที่ เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ แบรนด์กูร์เม่ต์มาร์เก็ต ลงทุน 100 ล้านบาท จึงเป็นส่วนที่ทำให้เติบโตได้

ส่วนปีหน้ามีแผนรุกตลาดซูเปอร์มาร์เกตมากขึ้น จะเปิดสาขาใหม่ที่เอ็มควอเธียร์ ลงทุน 300 ล้านบาท และปรับปรุงอีก 2 สาขา ใช้งบตลาดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ซูเปอร์มาร์เกตไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโต 5% ตามเป้าหมาย และตั้งเป้าหมายปีหน้าเติบโตประมาณ 10-15% มาจากการขยายสาขาใหม่และการเปิดสาขาที่รีโนเวตได้แล้ว

ปัจจุบันมี 11 สาขา แยกเป็น กูร์เม่ต์มาร์เก็ต 4 แห่ง และโฮมเฟรชมาร์ท 7 สาขา สิ้นปีนี้จะมีอีก 1 สาขา คือที่ เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ รวมเป็น 12 สาขา และปีหน้าก็จะมีแผนขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง จากกรณีที่กลุ่มเดอะมอลล์จะมีการขยายสาขาใหม่ๆ ต่อเนื่องตามแผนระยะยาว เช่น แบงค็อกมอลล์ ถนนบางนา-ตราด, โครงการที่หัวหิน, โครงการที่ภูเก็ต เป็นต้น

นายศุภวุฒิกล่าวต่อถึงแคมเปญการทำตลาดเกี่ยวกับกระเช้าของขวัญปีใหม่ว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนด้านการตลาดประมาณ 20 ล้านบาทเพื่อจัดทำแคมเปญกระเช้าปีใหม่ ซึ่งเราเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 57-15 ม.ค. 58 คาดหวังยอดขายจากกระเช้าปีใหม่ประมาณ 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้วที่ทำได้ 200 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่ปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ที่มีการเติบโต 15-20%
ปีนี้บริษัทฯ จะใช้คอนเซ็ปต์ “A TASTE OF EXTRAORDINARY” ในการรุกตลาด โดยมีกูรูด้านการจัดกระเช้าปีใหม่ คือ นาย LAURENT POUSSE มาร่วมในการคัดเลือกสินค้าและการจัดกระเช้าด้วย ซึ่งปีนี้บริษัทฯ จัดกระเช้าระดับราคาไว้ 3 ระดับ คือ 1. ระดับมาตรฐาน ราคา 400-4,000 บาท 2. ระดับพรีเมียม ราคา 4,000-10,000 บาท และ 3. ระดับลักชัวรี ราคาตั้งแต่ 10,000-30,000 บาทขึ้นไป เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์

ส่วนตลาดใหญ่ที่สุดของกระเช้าของขวัญคือช่วงราคา 1,000-2,500 บาท
ที่ขายดีที่สุดในท้องตลาดรวม และสินค้าที่นิยมใช้ในการจัดกระเช้าหลักๆ ยังคงเป็น ช็อกโกแลต สแน็ก เครื่องดื่ม เป็นต้น

นายศุภวุฒิประเมินว่า ในปีนี้คาดว่าตลาดกระเช้าปีใหม่จะมีการแข่งขันที่สูงและรุนแรง มากขึ้นแน่นอน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปี 2557 ในช่วงครึ่งปีแรกมีการชะลอตัวและเริ่มกลับมาเป็นปกติในช่วงไตรมาสที่สาม ทำให้ภาคธุรกิจต่างก็หวังที่จะใช้ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมีความตื่นตัวในการจับจ่ายเละสร้างยอดขายชดเชยในช่วงนี้ โดยเฉพาะสินค้ากระเช้าปีใหม่ซึ่งเป็นสินค้าที่มียอดขายดีและเป็นที่ต้องการของลูกค้าในช่วงนี้ คาดว่าจะทำให้ตลาดรวมคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น