กรมทรัพย์สินทางปัญญาเล็งตั้งกองทุนช่วยผู้ประกอบการไทยถูกละเมิดในต่างประเทศ ชง “ฉัตรชัย” ช่วยผลักดัน ขอกันรายได้ 40-50% จากเงินที่ส่งหลวงปีละกว่า 500 ล้านใช้ตั้งกองทุน พร้อมตั้งเป้าลดระยะเวลาการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาให้สั้นลง
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เสนอแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในตลาดต่างประเทศต่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ช่วยผลักดัน เพราะปัจจุบันนี้สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมเริ่มมีปัญหาถูกละเมิดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง และถ้าไม่ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาก็จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย และเศรษฐกิจของประเทศได้
ทั้งนี้ กรมฯ ได้เสนอให้มีการกันเงินรายได้และค่าธรรมเนียมจากการรับจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้นำส่งต่อกระทรวงการคลังปีละเกือบ 500 ล้านบาท โดยให้กันเงินส่วนหนึ่งเอาไว้เป็นกองทุน ซึ่งอาจจะ 40-50% ของเงินรายได้ที่นำส่ง เพื่อเอาไว้ใช้ช่วยเหลือผู้ประกอบการในการฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่มีเงินทุนหนา ไม่ค่อยมีปัญหา แต่หากเป็นรายกลาง รายเล็ก หากเกิดปัญหาถูกละเมิดเกิดขึ้นอาจจะทำให้ธุรกิจเสียหายได้
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ไม่ได้ช่วยแค่การป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่กรมฯ ยังมีแผนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่จะส่งสินค้าไปขายตลาดต่างประเทศ ขอให้มีการจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้ถูกต้อง อย่าคิดว่าจะไม่ถูกละเมิด เพราะทุกวันนี้สินค้าไทยมีคุณภาพ มาตรฐาน และเป็นที่ต้องการมาก ก็ยิ่งมีคนจ้องละเมิดมาก
นางมาลีกล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะลดระยะเวลาในการจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ ให้ลดลง โดยในปี 2558 มีเป้าหมายที่จะลดระยะเวลาจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์จาก 60 เดือน เหลือ 48 เดือน สิทธิบัตรออกแบบ จาก 18 เดือน เหลือ 12 เดือน อนุสิทธิบัตร จาก 12 เดือน เหลือ 6 เดือน เครื่องหมายการค้า จาก 17 เดือน เหลือ 12 เดือน และลิขสิทธิ์ จาก 23 วัน เหลือ 5 วัน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวจะต้องเป็นคำขอที่สมบูรณ์ และไม่มีปัญหาใดๆ
“กำลังทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอเพิ่มจำนวนคนเพื่อมาทำงานด้านการรับจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เพราะทุกวันนี้คนขาด มีคำขอมาก ทำกันไม่ทัน แม้จะมีการพัฒนานำระบบไอทีเข้ามาช่วยแล้ว คำขอจดทะเบียนก็ยังมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากได้คนเพิ่ม เป้าหมายในการร่นระยะเวลาจดทะเบียนก็จะทำได้เร็วขึ้น” นางมาลีกล่าว
สำหรับแผนงานทรัพย์สินทางปัญญาที่จะดำเนินการเพิ่มเติมในปี 2558 จะเน้นการผลักดันให้มีการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภูมิปัญญาท้องถิ่นและภูมิปัญญาของ SMEs ซึ่งกรมฯ จะมีหน่วยรับคำขอเคลื่อนที่ไปรับจดทะเบียน จัดให้มีการประกวดสินค้าภูมิปัญญาสู่นวัตกรรม การรณรงค์ให้มีสินค้า 1 จังหวัด 1 GI รวมทั้งมีแผนที่จะผลักดันให้มีการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ให้ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ จะเร่งรัดการแก้ไขกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว การเร่งรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการเคารพทรัพย์สินทางปัญญา การป้องกันและปราบปราบสินค้าละเมิด และการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)