ตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ 10,000 ล้านบาทสะดุด เหตุสาวไทยคิดมากขึ้นก่อนใช้เงิน หลังช่วง 2 ปีสถานการณ์บ้านเมืองไม่นิ่ง “คลีนิกข์” โหมออนไลน์ พบยอดขายพุ่ง 40% มั่นใจเดินเกมถูกทางรับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หวัง 5 ปียอดขายออนไลน์ทำได้ 5% ของยอดขายรวม
นางนันทวัลย์ เหล่าสินชัย ผู้จัดการทั่วไป เครื่องสำอาง “คลีนิกข์” บริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์มูลค่า 10,000 กว่าล้านบาทในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างนิ่งเนื่องจากสภาพการเมืองและเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะซื้อจากความจำเป็นโดยไม่ใช้อารมณ์ในการซื้ออย่างที่ผ่านมา อีกทั้งห้างสรรพสินค้ามีการชะลอแผนการลงทุนเปิดสาขาใหม่ยิ่งส่งผลให้ภาพรวมตลาดนิ่งเพราะถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ตลาดเติบโต แต่คาดว่าหลังจากเปิดเออีซีตลาดน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้ว่าจะมีผู้เล่นรายใหม่โดยเฉพาะแบรนด์เกาหลีที่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่มาแล้วก็ไป
อย่างไรก็ตาม พบว่าตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นตลาดที่น่าสนใจและเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยปีที่แล้วเติบโตกว่า 20-30% ส่วนสำคัญมาจากการพัฒนาของเทคโนโลยี 3G และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดย “คลีนิกข์” ถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางระดับเพรสทีจในไทยที่หันมาให้ความสำคัญต่อช่องทางอีคอมเมิร์ซตั้งแต่เดือน พ.ย.55
“ในปี 2556 คลีนิกข์ มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีแรก ส่วนในปีนี้มองว่าอย่างน้อยที่สุดน่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะมีการจำหน่ายสินค้าเหมือนกับเคาน์เตอร์แบรนด์ทุกตัว เพียงแต่รูปแบบโปรโมชั่นและวิธีการทำตลาดจะแตกต่างกัน เช่น เอ็กซ์คลูซีฟกิฟต์เซ็ตที่แตกต่างจากเคาน์เตอร์แบรนด์ ที่สำคัญยังเน้นในเรื่องความคุ้มค่าในการซื้อสินค้า”
ปัจจุบันยอดขายหลักในอีคอมเมิร์ซมาจากกลุ่มสินค้าสกินแคร์ กลุ่มสิว และสินค้าสำหรับผู้ชาย เป็นต้น ส่วนเมกอัพจะจำหน่ายได้น้อยกว่าเนื่องจากลูกค้าไม่ได้ทดลองสี เฉลี่ยยอดการสั่งซื้อต่อบิลอยู่ที่ 2,500-3,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 25-40 ปี เท่ากับที่ซื้ออยู่ในเคาน์เตอร์แบรนด์ โดยปีนี้ยอดขาย “คลีนิกข์” ในอีคอมเมิร์ซคิดเป็น 2% ของรายได้รวม แต่มั่นใจว่าจะเพิ่มเป็น 5% ภายใน 4-5 ปี
“ยอดขายคลีนิกข์ออนไลน์เติบโตได้ดีมาจากฐานที่ยังน้อยอยู่ บวกกับเป็นการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าไปถึง เช่น ในจังหวัดที่ไม่มีคลีนิกข์จำหน่าย รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้าเดิมที่ไม่มีเวลาเข้ามาซื้อในห้างสรรพสินค้า โดยยอดสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์มีสูงถึง 70,000 รายต่อเดือน”
นางนันทวัลย์ กล่าวอีกว่า ภาพรวม “คลีนิกข์” ยังเป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่สร้างยอดขายเป็นอันดับ 2 ให้แก่บริษัทฯ รองจาก “เอสเต้ ลอเดอร์” โดยในปีนี้รายได้ของคลีนิกข์ยังคงเติบโตได้ 1 หลัก มาจากกลุ่มเมกอัพ รองพื้น 30% สกินแคร์ 60% และน้ำหอมรวมกับสินค้าสำหรับผู้ชาย 10% โดยในปีหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 6 ตัว และมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 55 เคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ