ASTVผู้จัดการรายวัน - เตรียมใช้ไทยเป็นฐานรุกธุรกิจเครือข่ายการตลาดในอาเซียน เผยแผนปี 58-59 เล็งพื้นที่สร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทผงและแป้ง รวม 15-20 รายการ พร้อมชูโมเดลการบริหารงานในไทยเป็นแบบอย่างให้ทั่วโลกเดินตามรอยภายใต้ชื่อ Uni Power เสริมความแกร่งด้านยอดขายและการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร
นายคริสโตเฟอร์ คิม ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก “ยูนิซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์” บริษัทธุรกิจเครือข่ายการตลาดรายใหญ่ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองโอเร็ม รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ปัจจุบัน “ยูนิซิตี้” (UNICITY) มีการเปิดตัวบริษัทฯ และสำนักงานอย่างเป็นทางการประมาณ 30 ประเทศเพื่อจำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและดูแลสุขภาพมากกว่า 300 ชนิดไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก ล่าสุดเมื่อประมาณเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาเพิ่งเปิดสำนักงานในประเทศพม่าและบาห์เรน โดยยังคงมีแผนเปิดสำนักงานในประเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยถูกจัดเป็น 1 ใน 3 ตลาดสำคัญของ “ยูนิซิตี้” นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายสูงเทียบเท่าตลาดรวมคือมากกว่า 50% ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลาง หรือฮับ (Hub) ในการขยายธุรกิจของ “ยูนิซิตี้” สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ในช่วงปี 2558-2559 ยูนิซิตี้มีแผนการลงทุนในประเทศไทยเพื่อก่อสร้างโรงงานและใช้เป็นฐานผลิตสินค้าประมาณ 15-20 รายการ โดยจะเน้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทผงและแป้งซึ่งมียอดขายสูงเพื่อทำตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค เทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิต และวัตถุดิบ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปรายละเอียดของโครงการว่าจะใช้เงินลงทุนและพื้นที่เท่าใด”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยูนิซิตี้ได้เริ่มดำเนินการผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์สินค้าบางชนิดในลักษณะ OEM ในประเทศไทยแล้ว นอกจากนั้นยังดำเนินการก่อสร้างโรงงานในประเทศเวียดนามด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการผลิตสินค้าประเภทแรกคือกาแฟ ประมาณช่วงต้นปี 2558 โดยจะเน้นจำหน่ายภายในประเทศเวียดนามเท่านั้น
หัวใจสำคัญที่ส่งเสริมให้ตลาดประเทศไทยเติบโตมากอย่างเด่นชัดคือ โมเดลการบริหารงานโดย “ผู้นำธุรกิจเครือข่าย ยูนิซิตี้ ชาวไทย” ซึ่งมีอุปนิสัยที่แตกต่างจากชาติอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด เพราะมีความเป็นกันเอง อบอุ่น และใจดี ทั้งยังมีการสร้างระบบงานที่แข็งแกร่งด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้านบริการ หรือ Service Mind อย่างเต็มที่ จึงทำให้ทีมงานประสบผลสำเร็จทั้งด้านยอดขาย การเปิดตลาดใหม่ๆ การพัฒนาบุคลากร และด้านอื่นๆ
“ผมอยู่ในธุรกิจขายตรงและระบบเครือข่ายมาประมาณ 17 ปียังต้องยอมรับว่าผู้นำธุรกิจระบบเครือข่ายคนไทยมีวิธีการสร้างระบบงานที่แข็งแกร่งและดีที่สุดในโลก ขณะเดียวกันผู้บริหารระดับสูงของ ยูนิซิตี้ ต่างก็ให้ความเคารพคนไทยว่ามีจุดเด่นที่ชาติอื่นๆ ไม่สามารถเทียบเท่าได้ โดยได้ยกย่องให้เป็นโมเดลการบริหารงานที่เป็นแบบอย่างให้ชาติอื่นๆ ทั่วโลกนำไปใช้ภายใต้ชื่อ Uni Power ซึ่งนอกจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจของยูนิซิตี้มียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังถือเป็นแนวทางที่สำคัญในการพัฒนาบุคลากรของยูนิซี้ด้วย” นายคริสโตเฟอร์ คิม กล่าวเสริม
อนึ่ง “ยูนิซิตี้” ได้จัดให้มีการประชุมประจำปี “2014 UNICITY GLOBAL CONVENTION” ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 15-18 ต.ค. 57 โดยนำนักธุรกิจอิสระเข้าร่วมประชุมประมาณ 5.5 หมื่นคน คิดเป็นผู้ร่วมงานจากประเทศต่างๆ ประมาณ 23 ประเทศ เป็นจำนวนกว่า 2.5 หมื่นคน และเป็นผู้เข้าร่วมงานในประเทศไทย 3 หมื่นคน โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 1,780 ล้านบาท
