“ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” เดินหน้าขยายธุรกิจเครือข่ายสู่สิงคโปร์ ดีเดย์ 1 ต.ค.ศกนี้ หวังสอดรับแผนขยายธุรกิจเครือข่ายครอบคลุมตลาดอาเซียนในปี 2020 พร้อมเร่งเพิ่มอัตราจำนวนสมาชิกใหม่อีก 15% ในครึ่งปีหลัง
นางสาวสุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยถึงแผนการขยายตลาดธุรกิจขายตรงของบริษัทให้ครอบคลุมตลาดอาเซียนภายในปี 2020 ว่า ปัจจุบันธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ได้ขยายไปแล้วทั้งในประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และลาว โดยในประเทศไทยมีฐานสมาชิกทั้งสมาชิกอภิสิทธิ์และผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ประมาณ 5 แสนรหัส และต่างประเทศอีก 3 หมื่นรหัส โดยในวันที่ 1 ตุลาคม ศกนี้ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” จะเปิดตัวฐานธุรกิจเครือข่ายแห่งใหม่ที่ประเทศสิงคโปร์
ที่ผ่านมาธุรกิจเครือข่ายในต่างแดนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและจำหน่ายครบไลน์ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ล่าสุดกับผลิตภัณฑ์ใหม่ “บียอนด์ มากิ พลัส” (Beyonde Maqui Plus+) ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากทั้งในประเทศมาเลเซีย และกัมพูชา
ด้าน นายมนต์ชัย เดโชจรัสศรี กรรมการผู้อำนวยการ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย” บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังว่า จากสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว เห็นได้จากการลงทุนในตลาดหุ้น หรือสภาวะทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย คาดว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้จะดีและเติบโตกว่าในครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” เพิ่มขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับอัตราสมาชิกใหม่ของครึ่งปีแรก
โดยได้วางแผนกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้าย ด้วยการบุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มาแรงมีอัตราการเติบโตถึง 20% สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดน้ำ จึงเสริมศักยภาพ “บียอนด์ มากิ พลัส” (Beyonde Maqui Plus+) ด้วยการเปิดช่องทางส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบ “สต็อกกิสต์ (Stockist)” เพื่อช่วยผู้ร่วมธุรกิจในการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเป็นจุดกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคคลอบคลุมทุกพื้นที่ เพิ่มปันผลจูงใจสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจและทุ่มงบอย่างต่อเนื่องในสื่อดิจิตอล
สำหรับแนวโน้มของผู้บริโภคในปีหน้ายังคงมองว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ทั้งกำลังซื้อที่ยังคงยึดหัวเมืองเป็นหลักและจำนวนประชากรของคนสูงอายุเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้คนหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ในขณะที่ความสวยความงามและการดูแลตัวเองเพื่อสร้างความมั่นใจยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงยังคงพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์และยังรุกตลาดสุขภาพอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ที่ให้ประโยชน์ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย”
ด้านผลิตภัณฑ์ ขณะนี้ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อต่างๆ เพื่อความชัดเจนถึง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเพอร์ซันนัลแคร์ โดยจะเป็นสินค้าระดับพรีเมียมภายใต้ชื่อ “อาวียองซ์” (aviance) มีสัดส่วน 70% กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อ “บียอนด์” (Beyonde) มีสัดส่วน 20% สัดส่วนที่เหลือ 10% ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากภายใต้ชื่อ “ไอ-เฟรช” (i-fresh) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนภายใต้ชื่อ “ลีเวอร์ โฮม” (Lever Home)
สำหรับผลิตภัณฑ์ขายดี 3 อันดับแรก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ “อาวียองซ์ ไอ แอม บิวตี้ฟูล อิน แอนด์ เอาต์” (aviance I am Beautiful IN & OUT) ผลิตภัณฑ์บียอนด์ “มากิ พลัส” (Beyonde Maqui Plus+) และ “อาวียองซ์ ยูวี เอ็กซ์เพิร์ต” (aviance UV Expert) ตามลำดับ