xs
xsm
sm
md
lg

PONDORA เดินหน้าตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พรทิพา ฉัตรเกษมธนกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พอนโดร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
“พอนโดร่า” ชุดว่ายน้ำวินเทจ เดินหน้าสร้างแบรนด์พัฒนาจากธุรกิจเอสเอ็มอีสู่ผู้ผลิตชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจอันดับต้นของประเทศ เตรียมปรับกลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตั้งเป้า 3 ปีขยายสาขาสู่หัวเมืองใหญ่อีกกว่า 10 แห่ง พร้อมลงทุนสร้างโรงงานผลิตรองรับออเดอร์ OEM

นางสาวพรทิพา ฉัตรเกษมธนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พอนโดร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดว่ายน้ำวินเทจ กล่าวว่า “พอนโดร่า” (PONDORA) เป็นแบรนด์ชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจ ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 โดยเริ่มธุรกิจจากการผลิตแบบ Made to Order หรือการผลิตตามออเดอร์ของลูกค้า สร้างจุดขายด้วยการให้ลูกค้าเลือก DIY หรือมิกซ์แอนด์แมตช์ลวดลายผ้า สไตล์และรูปทรงของชุดได้ตามความชอบ ซึ่งนับเป็นเจ้าเดียวในตลาดชุดว่ายน้ำที่ให้บริการลักษณะนี้ และด้วยจุดเด่นของสไตล์วินเทจที่มีลูกเล่นน่ารัก ใส่แล้วดูไม่โป๊ สามารถเก็บ หรืออำพรางรูปร่างของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ชุดของแบรนด์พอนโดร่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาด้านรูปร่างหรือขาดความมั่นใจในการใส่ชุดว่ายน้ำได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มธุรกิจจากการจำหน่ายผ่านโลกออนไลน์ จนได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าแบบปากต่อปาก รวมถึงเหล่าศิลปินดารา เซเลบชื่อดังของเมืองไทย จึงต้องมีการขยายไลน์การผลิตแบบ Ready-to-Wear เพิ่มขึ้นควบคู่กันไปเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยากได้สินค้าแต่ไม่อยากรอคิวการตัดเย็บ ปัจจุบันมียอดจำหน่ายเดือนละกว่า 800-1,200 ชุด

หลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจ ในปีนี้เตรียมขยายธุรกิจจับกลุ่มลูกค้าออฟไลน์เพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจแบบเอสเอ็มอีขนาดเล็ก (SMEs) สู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจอันดับต้นของประเทศ ในนาม บริษัท พอนโดร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมขยายไลน์สินค้าครอบคลุมตลาดบีชแวร์ แต่ยังคงเอกลักษณ์สไตล์วินเทจ ในคอนเซ็ปต์การสื่อสาร PONDORA : Vintage Style Beachwear เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ชุดว่ายน้ำเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ไปจนถึงครอบครัว โดยตั้งเป้าหมายการขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจของไทยภายใน 3 ปี

“ปัจจุบันพอนโดร่ามีช่องทางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊กและไลน์ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงอายุ 50 ปี ที่คุ้นชินและสะดวกกับการซื้อสินค้าทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าลูกค้าในโลกออฟไลน์ก็เป็นตลาดใหญ่ที่เราอยากเจาะเข้าไป เพราะคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่คุ้นชินหรือไว้วางใจกับการซื้อของที่ไม่ได้สัมผัส หรือทดลองสินค้าก่อน แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ในบางจังหวัด แต่ก็ยังมองว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ”

บริษัทจึงวางแผนในการเปิด Shop หรือหน้าร้านของแบรนด์ในหัวเมืองใหญ่ประมาณ 10 สาขาให้ได้ภายใน 3 ปี โดยแบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 5 สาขา และในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือมีกำลังซื้อสูงอีก 5 สาขา ได้แก่ หัวหิน พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี โดยอาจเป็นได้ทั้งแบบสแตนด์อะโลน (Stand Alone) หรือเป็น shop ในศูนย์การค้า ขึ้นอยู่กับศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับการขยายสาขาเฉลี่ยสาขาละ 1.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 30 รายทั่วประเทศ จะรับเพิ่มเป็น 80-100 ราย และจะเลือกพื้นที่การขายไม่ให้ทับซ้อนกัน

การวางแผนพัฒนาธุรกิจดังกล่าวเกิดจากการศึกษาเทรนด์ตลาดชุดว่ายน้ำทั่วโลกพบว่า สไตล์วินเทจจะยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบและอยากใส่ชุดว่ายน้ำได้อย่างมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้นเทรนด์ชุดว่ายน้ำในช่วง “สปริงซัมเมอร์ปี 2015” แบรนด์ใหญ่ชื่อดังจากต่างประเทศหลายแบรนด์ก็เผยออกมาแล้วว่าจะเป็นแนววินเทจกันมากขึ้น จึงเชื่อว่ายอดขายในปีหน้าน่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งได้มีการเตรียมลงทุนกว่า 10 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานการผลิตสำหรับรองรับการขยายตลาดที่ได้วางแผนไว้และรองรับการผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ หรือ OEM ซึ่งตอนนี้มีติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ยังคงต้องดูรายละเอียดและข้อตกลงของแต่ละแบรนด์อีกครั้ง

สำหรับยอดขายในปีนี้จะอยู่ใกล้เคียงจากปีที่ผ่านมาคือประมาณ 15 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกยอดขายชะลอตัวเนื่องมาจากความไม่สงบทางด้านการเมือง และค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือน 7 เป็นต้นมา ซึ่งหากเดินตามแผนการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่วางไว้ 3 ปี คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้โตขึ้นอีกว่า 200-300%

“ปัจจุบันตลาดรวมชุดว่ายน้ำในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดย พอนโดร่าตั้งเป้ามีมาร์เกตแชร์ 5-10% ของตลาดรวมภายใน 3 ปี และมั่นใจว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจภายในระยะเวลาเดียวกัน” นางสาวพรทิพา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น