xs
xsm
sm
md
lg

“ปูนเอเชีย” ลุ้นรัฐต่ออายุสัมปทานฯ เผยแนวโน้มปี 58 ใช้ปูนโต 4.5-5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปูนเอเชีย” ตบเท้าหารือกระทรวงอุตสาหกรรมลุ้นช่วยต่ออายุสัมปทานเหมืองที่ จ.สระบุรีหลังใกล้หมดอายุสัญญาครบ 25 ปีอีก 5-6 ปีข้างหน้า ก.อุตฯ พร้อมประสานงานรวมถึงความชัดเจนกรณีสัมปทานที่ จ.สุราษฎร์ธานีที่ยังคาราคาซังตั้งแต่ปี 2540 เผยมาตรการเบิกจ่ายงบรัฐเร่งการใช้ปูนปี 2558 โตได้ 4.5-5%

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการเข้าพบของผู้บริหารบริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด (มหาชน) วันนี้ (9 ต.ค.) ว่า ทางบริษัทฯ ได้หารือภาพรวมของการพัฒนาอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ซึ่งรวมถึงแนวทางการต่ออายุสัมปทานเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนที่นำมาผลิตปูนซีเมนต์ในพื้นที่ จ.สระบุรี โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีปัญหาอะไรแต่การต่ออายุจะต้องผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะประสานให้

“ก็ต้องมาดูว่าพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาเรื่องลุ่มน้ำอะไรหรือไม่อย่างไร ซึ่งส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมเองไม่ได้มีปัญหาอะไรในจุดนี้ก็จะประสานไปให้เพราะการต่ออายุต้องผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานดังกล่าวด้วย” นายจักรมณฑ์กล่าว

นอกจากนี้ กรณีพื้นที่สัมปทานเหมืองที่กระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมทรัพยากรธรณีได้ทำสัญญาไว้กับปูนเอเชียตั้งแต่ปี 2540 ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทางบริษัทฯ ได้วางเงินมัดจำจำนวน 300 ล้านบาทเอาไว้แต่ปรากฏว่าระยะต่อมาทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ประกาศเป็นพื้นที่เขตอุทยาน แต่ปัญหาเมื่อทำสัญญาไปแล้วก็ยังไม่ได้ชัดเจนถึงเรื่องเงินดังกล่าวว่าจะมีการคืนหรือไม่อย่างไร โดยเรื่องนี้จะได้ประสานไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อที่จะให้ความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวซึ่งหากจำเป็นต้องคืนเงินก็จะต้องดำเนินการ

นายนภดล รมยะรูป กรรมการผู้จัดการบริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด (มหาชน) กล่าวหลังการเข้าพบ รมว.อุตสาหกรรมว่า บริษัทฯ ต้องการให้รัฐพิจารณาการต่ออายุสัมปทานเหมืองปูนซีเมนต์ก่อนที่จะหมดอายุอย่างน้อย 1 ปีเพื่อวางแผนพัฒนา ซึ่งบริษัทมีโรงปูนซีเมนต์อยู่ 3 แห่งที่ จ.สระบุรี เพชรบุรี และนครสวรรค์ กำลังผลิตรวม 5 ล้านตันต่อปี โดยโรงปูนที่ จ.สระบุรีจะหมดอายุอีกประมาณ 5-6 ปีข้างหน้าจากสัญญาทั้งหมด 25 ปีซึ่งหากต่อก็จะต่ออีก 25 ปี ส่วนกรณีสัมปทานที่ จ.สุราษฎร์ธานีที่เคยยื่นขอไว้ก็คงอยู่ที่นโยบายรัฐว่าจะสรุปอย่างไร

นอกจากนี้ ทาง รมว.อุตสาหกรรมได้สอบถามความพร้อมในระยะยาวหากเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตมากขึ้นในส่วนของปูนซีเมนต์ในประเทศ ซึ่งเอกชนยืนยันว่ามีความพร้อมเพราะปัจจุบันมีบริษัทปูนประมาณ 8 บริษัท มีโรงปูนทั้งสิ้นทั่วประเทศ 18 แห่ง กำลังการผลิตเต็มที่ 50 ล้านตัน แต่ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ประมาณ 32 ล้านตันหรือคิดเป็น 70% ของกำลังผลิตเท่านั้น ยังสามารถรองรับการเติบโตได้อีกมาก

“ปีนี้การเติบโตการใช้ปูนซีเมนต์มีน้อยตามทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่หลังจากที่รัฐบาลนี้มีแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นการเบิกจ่ายงบประมาณก็เชื่อว่าจะทำให้การใช้ปี 2558 เติบโตได้ในระดับใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ที่คาดว่าจะโต 4.5-5% ส่วนราคาปูนซีเมนต์ปัจจุบันเป็นสินค้าควบคุมซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ก็ขอให้ตรึงราคาจนถึงสิ้นปีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่แนวโน้มจะปรับขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่ความต้องการและต้นทุนที่สูงขึ้นประกอบด้วย” นายนภดลกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น