จักรมณฑ์ชี้ไม่ควรแยกสภาเอสเอ็มอีออกมาเพราะจะทำให้การทำงานไม่เหนียวแน่น ขณะที่ ส.อ.ท.ชี้ 3 องค์กรเอกชน ทั้ง ส.อ.ท. สภาหอฯ และ สทท. ได้หารือแล้วและเห็นว่าไม่ควรจะตั้งสภาเอสเอ็มอี
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลัง นายสุพันธ์ มงคลสุธีประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และคณะผู้บริหารเข้าพบว่า ได้หารือกับ ส.อ.ท.ถึงกรณีที่สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยผลักดันให้ตั้งสภาเอสเอ็มอี ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรจะแยกออกมา เนื่องจากจะทำให้การทำงานไม่เหนียวแน่น แต่ได้ให้ภาคเอกชน ทั้ง ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ไปพิจารณาว่าจะช่วยเหลือกันได้อย่างไร เนื่องจากการทำงานส่วนใหญ่จะมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่แล้ว
“ตอนนี้ถ้าจะตั้งจริงก็ต้องปรึกษากันก่อนว่าจะประสานการทำงานด้วยกันอย่างไร แต่ถ้าจะตั้งขึ้นมาเฉยๆ แล้วต่างคนต่างเดินก็ไม่ใช่ เพราะการที่เอสเอ็มอีแยกออกมาตั้งเป็นสภาเองนั้นเป็นการขยายแนวนอน ทำให้ขาดการโฟกัส ซึ่งไม่เหมือนกับสภาวิชาชีพ รวมทั้งในอนาคตมีโอกาสที่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ จะขอแยกตัวออกไปอีก แต่ก็ไม่ได้ค้านหากทางสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการฯ จะยกระดับขึ้นเป็นสภาเอสเอ็มอี แต่จะต้องถามคำถามและอธิบายโครงสร้างการทำงานของตัวเองให้ได้ชัดเจนก่อนเพราะผมจะต้องนำเรื่องนี้เข้าไปชี้แจงในสภาด้วย ซึ่งผมได้มอบหมายให้นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม เป็นผู้ประสานให้ทั้งสองฝ่ายมาหารือและตกลงร่วมกันเพื่อให้นำข้อมูลมาถกเถียงกันเอง”
นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เบื้องต้นภาคเอกชนทั้ง ส.อ.ท. สภาหอการค้าฯ และ สทท.ได้หารือ และมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรที่จะแยกสภาเอสเอ็มอีออกมา แต่ควรจะรวมกันเพื่อให้เป็นปึกแผ่นมากกว่าเพราะจะทำให้การช่วยเหลือจากรัฐบาลเกิดความซ้ำซ้อนและสับสนได้ เนื่องจากที่ผ่านมา ส.อ.ท.ให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาตลอด รวมทั้งมีการผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะสมาชิกของ ส.อ.ท. 80% เป็นเอสเอ็มอี