3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายเข้าพบกระทรวงอุตสาหกรรมร้องเรียนปัญหาน้ำตาลทรายไทยส่งออกปริมาณขาดหายทำภาพลักษณ์น้ำตาลไทยตลาดโลกแย่ แนะให้ไปหารือพาณิชย์ผู้ดูแลโดยตรง พร้อมเตรียมตั้ง “กอน.” ชุดใหม่เร่งเคาะราคาอ้อยขั้นต้น ส่วนระยะห่างที่ตั้งโรงงานให้ยึดเกณฑ์เดิมต้องไม่เกิน 80 กม.ไปก่อน หาก รง.ใดไม่ถึงให้ยื่นอุทธรณ์
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการเข้าพบของคณะผู้บริหาร 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า ทางโรงงานได้แจ้งให้ทราบถึงปัญหาการส่งออกน้ำตาลทรายที่ล่าสุดพบว่ามีปัญหาถูกลักลอบช่วงการขนส่งบริเวณท่าเรือทำให้น้ำตาลปลายทางที่ส่งออกมีปริมาณขาดหายไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีปัญหามาต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายของไทย แต่การกำกับดูแลปัญหานี้ขอให้ทางผู้ประกอบการไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์โดยตรง
“เรื่องกองทัพน้ำปัญหานี้ก็มีอยู่บ่อยๆ ก็มีหลายจุดที่ต้องดูแต่ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับกรณีโรงงานร้องเรียนว่าภาครัฐมักนำเอาน้ำตาลทรายเป็นสินค้าในการเจรจาต่อรองทางการค้าระหว่างประเทศแบบทวิภาคีโดยที่ผู้ประกอบการน้ำตาลไม่ได้ทราบอะไรเลย จึงอยากให้รัฐช่วยแจ้งด้วยเวลาไปเจรจาซึ่งเรื่องนี้ก็จะประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะพาณิชย์ต่อไป” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
สำหรับประเด็นข้อเสนอของฝ่ายโรงงานที่ต้องการให้มีการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2557/58 โดยเร็วเนื่องจากใกล้จะเปิดหีบแล้วแต่ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ใหม่เพื่อมาพิจารณา ดังนั้นเรื่องดังกล่าวจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดซึ่งขณะนี้มีรายชื่อพร้อมที่จะแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีระยะห่างที่ตั้งโรงงานน้ำตาลไม่เกิน 80 กิโลเมตร (กม.) กระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันที่จะใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไปส่วนโรงงานที่มีระยะห่างต่ำกว่า 80 กม.ให้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ โดยจะตั้งให้นายปราโมทย์ วิทยาสุข ว่าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาต่อไป หากพบว่าผิดจริงก็ต้องให้เป็นไปตามระเบียบคือต้องจ่ายค่าปรับ ส่วนจะมีการแก้ไขระยะห่างใหม่หรือไม่ก็คงจะต้องหารือใน กอน.และปรับระเบียบได้
นายวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ รองประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวว่า ปัญหาน้ำตาลส่งออกมีปริมาณไม่ครบถ้วนหรือหายไปไม่เป็นไปตามปริมาณที่ระบุ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์น้ำตาลส่งออกจากไทย ทำให้ผู้ซื้อในต่างประเทศเลือกที่จะซื้อน้ำตาลจากบราซิลและออสเตรเลียมากกว่าไทย ผู้ประกอบการกังวลในเรื่องนี้มาก เพราะทำให้น้ำตาลส่งออกของไทยเหลือ จึงต้องตรวจสอบตลอดเส้นทางการขนส่งตั้งแต่ออกจากโรงงานจนถึงประเทศปลายทาง โดยจะตรวจเครื่องชั่งทุกจุด ผู้รับขนน้ำตาลลงเรือว่าขนออกจากเรือครบถ้วนหรือไม่ และผู้ตรวจสอบคุณภาพน้ำตาลทราย หรือเซอร์เวเยอร์ที่พบว่าบุคลากรมีประสบการณ์ไม่เพียงพอ ส่วนการเข้าหารือกระทรวงพาณิชย์นั้น ผู้ประกอบการยื่นเรื่องขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปแล้ว อยู่ระหว่างรอการตอบรับ
