รมว.อุตฯ เผยเมืองยางสะเดาไม่คืบเหตุการเมืองฉุด หวังพึ่ง คสช.ช่วยขับเคลื่อน

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รับฟังความคืบหน้า “โครงการเมืองยาง เขตเศรษฐกิจพิเศษ” พบโครงการเมืองยางเขตสะเดา ยังไม่คืบหน้า เหตุปัญหาการเมืองฉุด เอกชนวอน คสช.เร่งแก้ปัญหาการเกษตรอย่างยั่งยืน

วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางมารับฟังความคืบหน้า “โครงการเมืองยาง เขตเศรษฐกิจพิเศษ” โดยมีผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรม มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 60 คน โดยนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวรายงาน

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช กล่าวว่า โครงการเมืองยางเป็นประโยชน์ในภาพรวมของอุตสาหกรรมในประเทศ ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มอุตสาหกรรมยางพารา ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมฐานรายได้ของประเทศ และเป็นการส่งเสริมการลงทุน และพัฒนาปัจจัยแวดล้อมในการเอื้อต่อการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม พร้อมทั้งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ด้าน นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ยางพารา ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่ที่เหลือประมาณ 755 ไร่ เป็นนิคมอุตสาหกรรมเมืองยาง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตอุตสาหกรรมยางพารา มีการผลิตผลิตภัณฑ์ยางพาราในท้องตลาดให้สูงขึ้น คาดว่าจะก่อสร้างเดือน ต.ค.2558 จะเสร็จในปี 2560 กนอ.มีความพร้อมในการรองรับสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา

“นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้สามารถรองรับอุตสาหกรรมยางพาราอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำให้ราคายางมีเสถียรภาพ ทดแทนนโยบายแทรกแซงราคายางพาราตกต่ำ สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจรากยางพารา ด้วยการใช้วัตถุดิบ และมูลค่าเพิ่มในประเทศ จากบทบาทผู้ผลิตวัตถุดิบไปสู่การเป็นผู้ใช้รายใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมสำหรับผลิตยางอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งถุงมือยาง ถุงยางอนามัย ยางสำหรับรถยนต์ ท่อยาง แปรรูปน้ำข้น แปรรูปไม้ยางพารา นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้สามารถเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดาซึ่งอยู่ห่าง 50 กิโลเมตร ทั้งเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า หรือนิคมฯ บริการด้าน SMEs Commplex และ Logistic”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมตัวแทนภาคเอกชนกล่าวว่า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนสะเดา และ Rubber City ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีก่อประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจด้วยรวม แต่ไม่มีความก้าวหน้าไปเท่าที่ควร สาเหตุมาจากภาคการเมืองเป็นตัวปัญหา ดังนั้น ภาคเอกชนหวังว่าการบริหารของ คสช.จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เมืองยาง และเขตเศรษฐกิจชายแดนพัฒนาเกิดเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าการเกษตรได้อย่างยั่งยืน