ASTVผู้จัดการรายวัน - “สหพัฒน์” เดินหน้าเร่งทำยอด 3 หมื่นล้านบาทในปี 57 ต่ำกว่าเป้า มั่นใจนโยบาย “บิ๊กตู่” แจกเงินชาวนาไร่ละ 1 พันช่วยดึงกำลังซื้อกลับคืน เผยเดินเกมตลาดใหม่ เน้นความสำคัญเรื่องวิจัยและพัฒนามากขึ้น ลดจำนวนสินค้าใหม่เหลือปีละ 1-3 ชนิด พร้อมเร่งทำรายได้จากต่างประเทศเป็น 10% หลังเปิดเออีซี
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนาพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซาลงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายในช่วงสองไตรมาสแรกอยู่ในระดับคงที่และเริ่มเติบโตขึ้น 1-3% ในไตรมาสที่สาม โดยคาดว่าในปี 2557 จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นเพียง 3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าน่าจะเติบโตประมาณ 10-15% หรือประมาณ 31,111 ล้านบาท
สำหรับปี 2558 คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มดีขึ้นในทุกมิติ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการช่วยเหลือเงินให้ชาวนารายละ 1 พันบาทต่อไร่ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคทุกระดับเริ่มสูงขึ้น โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากนัก แต่อยากให้เป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปเพื่อความมั่นคงระยะยาว ในส่วนของ สหพัฒน์ จึงยังไม่มีนโยบายปรับราคาสินค้าทุกชนิดเพราะยังสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ แต่เป็นห่วงผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภครายย่อยที่อาจฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยใช้ข้ออ้างจากเรื่องการขึ้นราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม
นายบุญชัย กล่าวอีกว่า นับจากนี้ไป สหพัฒน์ จะเริ่มปรับแผนการตลาดใหม่ทั้งระบบอย่างระมัดระวังเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากที่สุดและมีสินค้าที่สนับสนุนระหว่างกัน โดยแต่ละปีอาจมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพียง 1-3 ชนิดจากเดิมที่มีอย่างน้อย 3-4 ชนิด
ขณะเดียวกันยังเริ่มให้ความสำคัญตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเตรียมแผนงานล่วงหน้าประมาณ 2 ปีในการเปิดแผนก Internation Business ภายในบริษัทฯ พร้อมจัดตั้ง บริษัท สหพัฒนพิบูล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อดำเนินงานด้านการตลาดรองรับการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยตั้งเป้าว่าในปี 2558 จะมีสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศ 10%
ปัจจุบัน สหพัฒน์ มีการร่วมมือกับนักลงทุนในประเทศเมียนมาร์เพื่อดำเนินธุรกิจรี-แพคเกจจิ้งพร้อมจัดจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังเริ่มลงทุนบริษัทกระจายสินค้าในประเทศเวียดนาม ลาว และกัมพูชา
