4 บิ๊กเจ้าสัวเมืองไทย ซี.พี. ไทยเบฟ สหพัฒน์ และเซ็นทรัล เข้าพบรมว.พาณิชย์ หารือกำหนดแผนผลักดันเศรษฐกิจไทย “ฉัตรชัย”เผยเป็นมิติใหม่ในการทำงาน เตรียมจับมือดันราคาสินค้าเกษตร พัฒนาคุณภาพมากกว่าเน้นปริมาณ ขอความร่วมมือดูแลราคาสินค้า พร้อมจับมือดันส่งออก ขยายการค้าชายแดน มั่นใจปีนี้ยอดไม่ติดลบ เล็งแก้กฎหมายล้าสมัย 20 ฉบับ เอกชนหนุน ขอกระทรวงอื่นทำตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการและกรรมการบริหาร กลุ่มสหพัฒน์ และนายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล และคณะ ได้เดินทางมาเข้าพบ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์
ทั้งนี้ ยังมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมหารือด้วย ได้แก่ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วย รมว.พาณิชย์ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน
สำหรับประเด็นการหารือของกลุ่มธุรกิจระดับประเทศ 4 บริษัทใหญ่กับ รมว.พาณิชย์ในครั้งนี้จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งเรื่องมาตรการดูแลค่าครองชีพ การผลักดันการส่งออก และความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน เพื่อกำหนดนโยบายเชิงรุกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวภายหลังการหารือว่า ได้เชิญผู้นำภาคเอกชนเข้ามารับฟังนโยบายการทำงานของรัฐบาล และยุทธศาสตร์การทำงานของกระทรวงพาณิชย์ โดยได้ชี้แจงว่ารัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนระยะสั้น 3 เดือนที่จะเร่งผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ และมีแผนระยะยาว คือ การวางรากฐานทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในทุกด้าน จึงอยากจะขอความร่วมมือภาคเอกชนให้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ซึ่งภาคธุรกิจพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
“วันนี้มีภาคธุรกิจมา 10 กว่าท่าน ภาคเอกชนบอกว่าเป็นมิติใหม่ ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ที่เปิดโอกาสให้เอกชนมาแสดงความคิดเห็น โดยเห็นด้วยที่ภาครัฐจะร่วมกับภาคเอกชนในการทำงาน ซึ่งผมจะคุยต่ออีกหลายกลุ่ม เพราะเป็นแนวทางที่ดี”
สำหรับการหารือครั้งนี้ ได้ชี้แจงให้กับภาคเอกชนทราบถึงแนวทางการปฏิรูปที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ และขอให้ภาคเอกชนให้ความร่วมมือ เพื่อให้การปฏิรูปประสบความสำเร็จในทุกด้าน และขอความร่วมมือในการผลักดันราคาสินค้า โดยเฉพาะการเน้นการเพิ่มคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ส่วนการดูแลค่าครองชีพ ได้ขอให้ภาคเอกชนช่วยรักษาระดับราคาสินค้าไม่ให้ปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผล ซึ่งภาคเอกชนก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ แต่ไม่ได้พูดถึงการตรึงราคาสินค้า แต่จะดูแลให้กลไกตลาดเป็นไปอย่างเหมาะสม
ทางด้านการผลักดันการส่งออก จะร่วมมือกันในการผลักดันการส่งออก และมั่นใจว่าแม้การส่งออกจนถึงขณะนี้จะยังติดลบ แต่เชื่อว่า ยอดส่งออกทั้งปี ไม่น่าจะติดลบ จะกลับมาเป็นบวกได้
นอกจากนี้ ยังจะร่วมมือกันในการผลักดันการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และมาเลเซีย ให้เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นส่วนที่จะช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าไทย และจะเร่งผลักดันระบบโลจิสติกส์ เพราะเป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญ ซึ่งได้ยืนยันไปว่ารัฐบาลมีนโยบายในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องอื่นๆ จะแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ โดยได้มอบหมายให้กรมต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณาว่ามีกฎหมายอะไรบ้างที่ล้าสมัย และต้องปรับปรุงแก้ไข โดยให้เวลาภายใน 1 เดือน ซึ่งเบื้องต้นมีประมาณ 20 ฉบับ จากนั้นภายใน 3 เดือน จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา
นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รู้สึกดีมาก ที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการเชิญภาคเอกชนเข้ามาหารือ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นระหว่างภาครัฐและเอกชนด้วยกัน เบื้องต้นได้มีการหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเพื่อสร้างรายได้ให้กับรากหญ้า แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดมากนัก โดยหลังจากนี้ ภาคเอกชนจะเข้าพบรมว.พาณิชย์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจในรอบต่อไป
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ต้องการให้มีการจัดกลุ่มหารือในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ และอยากให้ขยายการหารือไปยังกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย โดยการหารือได้มีการพูดถึงเรื่องการผลักดันการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์