“เจ๊เกียว” ยกขบวนรถร่วมฯ บขส.ร้อง “คมนาคม” ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เหตุผู้โดยสารลดวูบกว่า 60% รายได้ไม่คุ้มต้นทุน เสนอขอขึ้นค่าโดยสาร และลดค่าขา ขอจ่ายตามที่วิ่งจริง “อาคม” รับข้อเสนอ ให้ทำรายละเอียดเพิ่มก่อนให้คณะ กก.ขนส่งกลางพิจารณาตามความเหมาะสม โดยต้องไม่ให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก (ขบ.), บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร กรณีที่สมาคมผู้ประกอบการฯ ได้ยื่นหนังสือขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารลดลง โดยผู้ประกอบการขอให้ภาครัฐพิจารณาในหลายประเด็น เช่น การกำหนดเที่ยววิ่งขั้นต่ำ การประกันภัยรถ การเพิ่มจำนวนรถ ค่าปรับต่างๆ ในกรณีที่รถไม่สามารถวิ่งได้ตามที่กำหนด และขอให้ปรับโครงสร้างค่าโดยสารให้สอดคล้องกับต้นทุนในปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงได้รับข้อเสนอไว้พิจารณา โดยให้ผู้ประกอบการจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบต่างๆ เพื่อให้ บขส.และ ขบ.นำข้อเสนอไปหารือในคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางพิจารณา
ทั้งนี้ ยอมรับในปีนี้จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางระหว่าง กทม.ไปยังจังหวัดต่างๆ นั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นมากตามที่คาดการณ์กันไว้ ทำให้รถจำนวนหนึ่งต้องหยุดวิ่งหรือวิ่งออกไปแล้วไม่คุ้มเพราะผู้โดยสารน้อย ต้องเห็นใจผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ที่แข่งขันกันลดค่าโดยสารกันอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่สามารถเลือกโหมดการเดินทางที่สะดวกและค่าโดยสารถูก แต่ต้องพิจารณาว่าการแข่งขันดังกล่าวเป็นธรรมต่อผู้บริโภคและเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเองหรือไม่
“เบื้องต้นทางผู้ประกอบการเสนอขอให้ผ่อนผัน ขอลดค่าปรับต่างๆ ลดค่าขาลงเพื่อบรรเทาในเรื่องต้นทุนเพราะผู้โดยสารน้อยลง ส่วนเรื่องค่าประกับภัยนั้น รถทุกคันต้องทำต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายมีความสามารถในการจ่ายไม่เท่ากัน บางรายมีรถ 1 คัน บางรายมีรถจำนวนมาก ซึ่งการตั้งกองทุนขึ้นมานั้นเพื่อช่วยเหลือรายเล็กด้วย ซึ่งต้องเจรจากับบริษัทประกันภัยให้เป็นประกันแบบเหมา ซึ่งถ้าไม่มีอุบัติเหตุค่าเบี้ยจะต้องลดลงได้ โดยนโยบายต้องการให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดอยู่แล้ว ส่วนการพิจารณาในเรื่องค่าโดยสารนั้น จะต้องให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ และไม่กระทบผู้บริโภค” นายอาคมกล่าว
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ในแต่ละเส้นทางจะมีเงื่อนไขกำหนดเที่ยววิ่งไว้ชัดเจน แต่เมื่อจำนวนผู้โดยสารลดลง วิ่งไปไม่คุ้มเพราะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ จึงได้หารือถึงแนวทางที่จะปรับเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการตามภาวะที่เป็นจริง ซึ่งจำนวนเที่ยววิ่งในบางเส้นทางอาจจะต่ำกว่าเงื่อนไขที่คณะกรรมการกลางกำหนด แต่จะต้องมีเพียงพอต่อความต้องการเพื่อไม่ให้กระทบผู้ใช้บริการ ส่วนการปรับค่าโดยสารนั้นจะต้องพิจารณาต้นทุนหลายตัวประกอบกัน รวมถึงราคาของโลว์คอสต์ด้วย โดยเบื้องต้นอาจจะมีการปรับโครงสร้างราคาให้มีเพดานขั้นต่ำ ขั้นสูง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการกำหนดราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เป็นจริงได้ จากโครงสร้างปัจจุบันที่กำหนดเป็นอัตราเดียวตายตัว
นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร กล่าวว่า ได้เสนอขอให้ลดค่าธรรมเนียมเที่ยววิ่งลง (ค่าขา) ตามเที่ยววิ่งที่เป็นจริง เนื่องจากขณะนี้ผู้โดยสารลดลงกว่า 60% เหลือเพียง 30% ซึ่งเรื่องนี้ บขส.เห็นชอบแล้วแต่ยังปฏิบัติไม่ได้ เพราะต้องให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาด้วย จึงทำหนังสือถึง รมช.อาคม เพราะการขนส่งก็ถือว่าเป็นธุรกิจตัวแทนของรัฐบาลในการให้บริการขนส่งประชาชน ผู้ประกอบการต้องอยู่รอดด้วย และอยากให้ปรับค่าโดยสารได้ตามความเป็นจริง หรือลอยตัว นอกจากนี้ได้ขอให้ บขส.ลดค่าปรับต่างๆ และขอขยายอายุการใช้งานรถจาก 5 ปีเป็น 15 ปี ส่วนค่าประกันภัยที่ต้องจ่ายค่าเบี้ยทุกคัน ในขณะที่รถวิ่งจริงไม่ครบทุกคัน เพราะผู้โดยสารน้อย ขอให้รัฐช่วยพิจารณาจัดตั้งกองทุนค่าประกันภัย และขอให้รถที่ไม่ได้วิ่งเนื่องจากผู้โดยสารน้อย ได้รับการต่อสัญญาปกติ