xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ช่วยธุรกิจไทยเจาะตลาดอาเซียน ดัน “ไทยเทรดดอทคอม” ฮับซื้อขายออนไลน์รับ AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดันเว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอมเป็นฮับซื้อขายสินค้าออนไลน์ในอาเซียนรับเปิด AEC เตรียมผลักดัน SMEs เข้ามาเป็นสมาชิกและใช้ช่องทางออนไลน์ขายสินค้า พร้อมจับมือธนาคารพาณิชย์ ผู้ขนส่งสินค้า DHL อำนวยความสะดวก เผยหลังเปิดเว็บ 4 ปีมียอดซื้อขายแล้วกว่า 3 พันล้านบาท

นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้อำนวยการสำนักพาณิชย์ดิจิตอลและสารสนเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้เว็บไซต์ www.thaitrade.com ซึ่งเป็นตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่มีร้านค้า 13,024 ร้านค้า และสินค้าที่ซื้อขายกว่า 2 แสนรายการ เป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในอาเซียน เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพราะปัจจุบันในอาเซียนการซื้อขายสินค้าออนไลน์เริ่มมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนที่จะโปรโมตเว็บไซต์ www.thaitrade.com ผ่านการจัดงานแสดงสินค้าที่ไทยจัดอยู่เป็นประจำในประเทศอาเซียน โดยจะทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ซื้อได้รับรู้ว่าสามารถหาซื้อสินค้าไทยที่หลากหลายได้ผ่านเว็บไซต์นี้ และจะร่วมมือกับเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ของประเทศอาเซียนเพื่อแนะนำเว็บไซต์ของไทย โดยได้ดำเนินการร่วมกับเวียดนามไปแล้ว และจะร่วมมือกับอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รวมทั้งอาเซียนอื่นๆ ต่อไป

“ได้ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในอาเซียน ซึ่งจะทำการเชื่อมโยงเว็บ www.thaitrade.com กับเว็บที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ของประเทศอาเซียน ต่อไปผู้ซื้อในอาเซียนที่อยากจะซื้อสินค้าไทยก็เข้ามาดูสินค้าและซื้อสินค้าได้จากเว็บไซต์นี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่ที่จะขายสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดอาเซียน โดยเฉพาะสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) จะมีช่องทางในการขายได้เพิ่มขึ้น”

สำหรับแผนการผลักดันให้ SMEs เข้าสู่ตลาดค้าขายออนไลน์ กรมฯ จะผลักดันให้ SMEs เข้ามาเป็นสมาชิกให้ได้เพิ่มมากขึ้น โดยจะเข้าไปช่วยทั้งการฝึกอบรมการทำธุรกิจ ระบบการซื้อขาย การถ่ายภาพขึ้นเว็บไซต์ การแปลภาษา โดยจะเป็นพี่เลี้ยงให้จนกว่าจะมีความเข้มแข็งซื้อขายสินค้าได้

นางลลิดากล่าวว่า กรมฯ ยังจะได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ เช่น ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ในการแนะนำลูกค้าให้เข้ามาเป็นสมาชิกเว็บไซต์ และกำลังจะพัฒนาความร่วมมือในการรับชำระค่าซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจะทำให้การซื้อขายสินค้าผ่านเว็บไซต์มีความคล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ DHL ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเข้ามาเป็นพันธมิตรในการขนส่งสินค้าให้แก่ผู้ที่สั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ โดย DHL ได้ช่วยในการจัดทำข้อมูลกฎระเบียบในการนำเข้าในแต่ละประเทศว่าสินค้าอะไรส่งได้หรือส่งไม่ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทยด้วย

นางลลิดากล่าวว่า สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ที่ผ่านมา กรมฯ ได้มีการจัดทำ Mobile Application เพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานของผู้ซื้อผู้ขายผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งทำให้ผู้ซื้อผู้ขายเข้าถึงการใช้งานได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น และยังได้จัดตั้ง Thaitrade.com Center ศูนย์บริการให้คำปรึกษา ความรู้และเทคนิคด้านการค้าออนไลน์แก่สมาชิก และผู้ประกอบการทั่วไป เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำการค้าออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งได้จัดให้มีบริการ Online Support สนับสนุนการใช้บริการ Thaitrade.com และเรื่องอื่นๆ ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน ได้จัดให้มีการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ขายคนไทยกับผู้ซื้อต่างชาติทั้งหมด 1,015 คู่ จากผู้ซื้อใน 42 ประเทศ ซึ่งหากรวมยอดขายทั้งผ่านเว็บไซต์และผ่านการจับคู่ธุรกิจตั้งแต่เปิดเว็บไซต์มาประมาณ 4 ปี มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน Thaitrade.com มีจำนวนร้านค้าออนไลน์ที่ได้มาตรฐานผ่านเกณฑ์คุณสมบัติจำนวน 13,024 ร้านค้า และผู้ซื้อจากทั่วโลกมากกว่า 65,620 ราย โดยประเทศที่เป็นสมาชิกผู้ซื้อมากที่สุด คือ อินเดีย จีน สหรัฐฯ มาเลเซีย ปากีสถาน อินโดนีเซีย บังกลาเทศ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ ได้แก่ สินค้าอาหาร เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น ของขวัญของตกแต่งบ้าน สินค้าเพื่อความงามและเครื่องบำรุงผิว สินค้าเกษตร เฟอร์นิเจอร์ อะไหล่รถยนต์ สินค้าสุขภาพประเภทยา และสินค้าเกี่ยวกับบ้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น