เอกชน จับมือภาครัฐ จัดมหกรรม SME Thailand Expo 2014 ในวันที่ 25-28 กันยายน 2557 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ชูเป็นเวทีกระตุ้นให้เอสเอ็มอีไทยร่วมตัวสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งพร้อมเข้าสู่เออีซี
นายวินัย วิโรจน์จริยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนนินซูลาร์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจัดงาน SME Thailand Expo 2014 ในวันที่ 25-28 กันยายน 2557 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 7-8 ซึ่งแนวคิดหลักของงานในปีนี้ ให้ความสำคัญเรื่องการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อม เงินลงทุนน้อย ไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างเองได้ แต่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง จึงควรต้องมีพันธมิตรมาคอยเสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน เพื่อช่วยสนับสนุน แลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญตลอดจนทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) การแข่งขันย่อมสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน เป็นโอกาสทางธุรกิจเช่นกัน การที่เอสเอ็มอีรวมกลุ่มเป็นพันธมิตรจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้พร้อมเข้าสู่เออีซีได้
“การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย หากต้องต่อสู้ตามลำพังในขณะที่เทคโนโลยีทำให้โลกของการค้านั้นไร้พรมแดน ดังนั้น การสร้าง “พันธมิตรทางธุรกิจ” ด้วยการดึงเอาจุดแข็งของแต่ละธุรกิจมารวมกัน ย่อมจะทำให้ปิดจุดอ่อนของตนเองได้ เกิดประโยชน์ Win-Win ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ ที่สำคัญ เกิดการพัฒนาร่วมกันที่ยั่งยืน” นายวินัย กล่าว
ทั้งนี้ ในงานดังกล่าว มีกิจกรรมเพื่อสร้างให้เกิดการรวมกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น Business Matching การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกันเอง และกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังมีการแสดงและขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยตรงกว่า 400 บุท อีกทั้ง มีเวทีสัมมนาความรู้ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ กิจกรรม DIY ฟรี เช่น เย็บผ้าควิลท์ จาก Vanida Quilts และถักไหมพรมด้วยเครื่อง กับ PINN SHOP เป็นต้น
ด้าน นายกิตติพัฒน์ ปณิฐาภรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ให้การสนับสนุนในเรื่องของการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาโดยตลอด ผ่านหลายๆ โครงการที่จัดทำขึ้น เพราะเล็งเห็นว่า ปัจจุบันหมดยุคที่ผู้ประกอบการหรือเถ้าแก่จะทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด จำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อช่วยส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และยังเป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มอำนาจการต่อรองในเชิงธุรกิจได้อีกด้วย เช่น การซื้อวัตถุดิบร่วมกัน เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกลง หรือเมื่อมียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แทนที่จะต้องลงทุนขยายโรงงานหรือซื้อเครื่องจักรเพิ่ม ก็สามารถที่จะกระจายออเดอร์ไปให้พันธมิตรช่วยในการผลิต หรือแม้แต่ร่วมกันเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *