หลวงปู่พุทธะอิสระ เตรียมเปิดเวทีเสวนาถาม : ตอบ พลังงานรอบที่ 2 วันที่ 24 ก.ย.นี้ ที่สโมสรทหารบก เน้นพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะ เครือข่ายภาคประชาชนเตรียมประเด็นเพียบจี้กำหนดเป้าหมายผลิตไฟจากพลังงานหมุนเวียนให้ชัด เน้นประชาชนผลิตไฟให้มากสุด ขณะที่ “กฟผ.” อ้อนรัฐแผนพีดีพีใหม่ คงสัดส่วน กฟผ.ผลิตไฟ 50%
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย เปิดเผยว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาส วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้นัดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคประชาชน และกระทรวงพลังงาน เพื่อจัดเสวนาในเวทีถาม : ตอบปัญหาพลังงานชาติ ในวันที่ 24 กันยายนนี้ ที่สโมสรทหารบก ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งนี้จะเน้นหัวข้อพลังงานปิโตรเลียม และพลังงานหมุนเวียนซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการผลิตไฟฟ้าภาพรวมของประเทศ
ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนกำลังเตรียมประเด็นต่างๆ ในการตั้งคำถามโดยหลักการที่ต้องการเสนอคือ 1.ต้องการให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้เป็นพลังงานหลัก ส่วนพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานรองโดยมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน 2.ควรให้สิทธิประชาชนเป็นผู้ผลิตให้มากที่สุด 3.รัฐควรมีมาตรการอุดหนุนระยะแรก และควรมีกลไกในการตรวจสอบต้นทุนการผลิตเพื่อไม่ให้การอุดหนุนตกไปอยู่กับกลุ่มผู้ผลิตจนกระทบต่อค่าไฟฟ้า
“ที่ผ่านมา รัฐมักมีข้ออ้างว่าพลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานทดแทนต้องอุดหนุนค่าไฟทำให้ไม่สามารถรับซื้อได้ในจำนวนมากเพราะจะเป็นภาระต่อประชาชน ทั้งที่รัฐกำหนดการอุดหนุนในอัตราที่คงที่นานๆ และไม่มีการตรวจสอบต้นทุนการผลิตทั้งที่มีแนวโน้มลดลง และทำให้การกำหนดแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือพีดีพีถูกจัดทำขึ้นจึงให้ความสำคัญต่อการใช้พลังงานฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงหลัก ที่มีการขยายตัวต่อเนื่องมากกว่า” นายอิฐบูรณ์ กล่าว
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) ฉบับใหม่ 20 ปี (2559-2579) ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ ทาง กฟผ.เองได้เสนอให้ภาครัฐได้พิจารณาคงสัดส่วนการผลิตของ กฟผ.ไว้ที่ 50% ของการผลิตทั้งหมด เพื่อความมั่นคงเนื่องจากการให้ภาคเอกชนผลิตไฟฟ้ามากกว่า 50% หากเกิดปัญหารัฐไม่สามารถไปสั่งให้เอกชนดำเนินการผลิตได้ตลอด ซึ่งปัญหานี้เคยเกิดขึ้นกับต่างประเทศมาแล้ว
“การดูแลความมั่นคงด้านไฟฟ้า ถือว่าเป็นหน้าที่ของ กฟผ.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น หากให้เอกชนผลิตไฟฟ้ามากเกินครึ่ง หากเกิดปัญหา รัฐเองอาจไม่สามารถเข้าไปสั่งเอกชนได้ อย่างไรก็ตาม แม้ กฟผ.จะผลิตไฟฟ้าครึ่งหนึ่ง แต่การสั่งเดินเครื่องผลิตจะยังเป็นไปตามมาตรฐาน คือ จะเลือกเดินจากเครื่องที่มีต้นทุนต่ำที่สุด เพื่อให้ค่าไฟฟ้าที่ไปถึงผู้บริโภคมีราคาต่ำ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า กฟผ.จะเลือกเดินเครื่องจากโรงไฟฟ้าของ กฟผ.เป็นอันดับแรกแต่อย่างใด” นายสุนชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการจัดทำแผนพีดีพีฉบับใหม่ โดยจะมีการจัดรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ โดยในวันที่ 10 ก.ย. จะจัดรับฟังที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งตามแผนพีดีพีฉบับปัจจุบันคาดการณ์อัตราการขยายตัวของไฟฟ้าอยู่ที่ 4-5% แต่ฉบับใหม่คาดว่าจะลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทน และตามแผนพีดีพีฉบับใหม่มีการตั้งเป้าหมายเบื้องต้นว่า จะลดสัดส่วนการใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเหลือ 30% จากปัจจุบันมี 65-70% การใช้ถ่านหินจะเพิ่มเป็น 30% การใช้พลังงานทดแทน 20% การซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 15% และนิวเคลียร์ 5%