หลวงปู่พุทธะอิสระนัดเครือข่ายปฏิรูปพลังงานภาคประชาชนระดมสมองจัดระเบียบคำถาม กรอบเวลา พรุ่งนี้ (5 ก.ย.) หวังเบื้องต้นเปิดเวทีใหญ่ 19 ก.ย.ถาม : ตอบปฏิรูปพลังงานรอบ 2 เน้นไฟฟ้าและพลังงานทดแทนโดยเฉพาะ ด้านภาคเอกชนแนะรัฐปฏิรูปพลังงานควรแยกแยะความมั่นคงออกจากการทำธุรกิจ
นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย(กคป.) กล่าวว่า พรุ่งนี้ (5 ก.ย.) หลวงปู่พุทธะอิสระเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐมได้นัดเครือข่ายภาคประชาชนด้านปฏิรูปพลังงานมาหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอแนะและคำถามเพื่อที่จะนำไปจัดเวทีปฏิรูปพลังงานเสวนาถาม-ตอบ ปัญหาพลังงานชาติรอบที่ 2 ซึ่งเบื้องต้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้แจ้งไว้ว่าจะเปิดเวทีในวันที่ 19 กันยายนนี้
“คงจะต้องมาดูในรายละเอียดกันก่อน แต่เบื้องต้นคงจะเป็นวันที่ 19 กันยายนนี้ที่สโมสรทหารบกเหมือนเดิมที่จัดครั้งแรก แต่ครั้งนี้จะเน้นไปในเรื่องของไฟฟ้าและพลังงานทดแทนเนื่องจากรอบแรกจะเน้นไปที่แอลพีจี โครงสร้างน้ำมัน และปัญหาท่อก๊าซฯ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างมากจึงยังไม่ครอบคลุมประเด็นอื่นๆ” นพ.ระวีกล่าว
อย่างไรก็ตามเวทีดังกล่าวถือว่าเป็นประโยชน์ แต่หากจะให้ตรงเป้าหมายและปัญหาทุกอย่างจบจริงๆ เป็นที่ยอมรับทุกฝ่ายเห็นว่าหลังจากนี้จะมีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แล้วก็ควรจะดึง สปช.มาร่วมหารือกับกระทรวงพลังงาน บมจ.ปตท. เครือข่ายภาคประชาชน และรัฐบาล มาร่วมปฏิรูปในเวทีระดับชาติ โดยให้มีการแสดงความเห็นทีละเรื่องซึ่งอาจใช้เวลา 2-3 เดือน แต่ความชัดเจนและการยอมรับภาพรวมจะมีมากกว่า
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เบื้องต้นหลวงปู่ได้นัดเครือข่ายภาคประชาชนมาดูเนื้อหาและคำถามต่างๆ ที่จะถามไปยังฟากรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวันที่ 5 ก.ย.ก่อน ส่วนเวทีเสวนาถามตอบเบื้องต้นกำหนดไว้วันที่ 19 ก.ย.ซึ่งคงจะหารือในรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเวทีที่ผ่านมาก็ถือเป็นสิ่งที่ดีแต่คงไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของการปฏิรูปพลังงานโดยรวม
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า พลังงานเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ การปฏิรูปพลังงานจะต้องมองเรื่องนี้ก่อนไม่ใช่มองเป็นเรื่องธุรกิจ ดังนั้นควรจะจัดระเบียบใหม่ให้แยกแยะระหว่างความมั่นคงของประเทศกับเรื่องธุรกิจออกจากกัน ซึ่งปัจจุบันโครงสร้างยังสับสนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะไปทางไหนเหมือนจะเอาธุรกิจผูกขาดมาแข่งขันก็ย่อมได้เปรียบกว่า
นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การปฏิรูปพลังงานนั้นอยากเห็นการแสดงความเห็นที่เกิดจากผู้รู้ที่แท้จริงเพื่อให้เดินไปถูกทาง ซึ่งพลังงานทดแทนปัจจุบันถือว่ารัฐบาลก็ให้ความสำคัญมากขึ้น แต่มีหลายเรื่องที่ควรจะปรับปรุงโดยเฉพาะต้องการให้กระทรวงพลังงานเปิดเผยถึงพลังงานทดแทนแต่ละชนิดออกมาว่าทำไปได้มากน้อยเพียงใดกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ลม ชีวมวล แสงอาทิตย์ ขยะ พลังน้ำขนาดเล็ก
