xs
xsm
sm
md
lg

“สิงห์” รุกธุรกิจฟู้ดต่างประเทศ ปั้นร้านอาหารและแพกฟู้ดลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ธีระ วงศ์พัฒนาสิน” (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟน์ ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด
“สิงห์” รุกตลาดอาหารเต็มสูบ ผุดบริษัทลูก “ไฟน์ ฟู้ด แคปปิตอล” ลุยตลาด พร้อมวางเครือข่ายต่างประเทศ ปั้นแบรนด์ใหม่ทั้งร้านอาหาร “พาคาต้า” และ “แพกฟู้ด” หวังใช้ฐาน “เบียร์สิงห์” เป็นอาวุธเจาะตลาดโลก

นาย “ธีระ วงศ์พัฒนาสิน” (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟน์ ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด ในเครือเบียร์สิงห์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2555 มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท มีจุดประสงค์เพื่อมุ่งเน้นธุรกิจทางด้านอาหารทั้งในและต่างประเทศ ทั้งธุรกิจร้านอาหารและอาหารพร้อมรับประทาน พร้อมปรุง และฟู้ดซัปพลาย โดยใช้นโยบายการตั้งบริษัทลูกเพื่อขยายธุรกิจในแต่ละตลาดต่างประเทศซึ่งขณะนี้มีการตั้งแล้ว 1 แห่งคือ บริษัท ไฟน์ ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด ที่ประเทศอังกฤษ

ในส่วนของธุรกิจร้านอาหารนั้นจะเปิดร้าน “พาคาต้า” ซึ่งเป็นร้านอาหารแนว “ฟาสต์ ไดนิ่ง เอเชียน ฟิวชัน ฟู้ด” เปิดสาขาแรกแล้วที่ถนนข้าวสาร เมื่อเดือนธันวาคม 2555 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ส่วนสาขาที่สองเปิดที่เมืองโคเวนต์ การ์เดน ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ด้วยงบลงทุน 50 ล้านบาท ขนาด 40 ที่นั่ง พื้นที่ 90 ตารางเมตร โดยเน้นคอนเซ็ปต์ “เอเชียน ฟิวชัน คอมฟอร์ต ฟู้ด” ซึ่งแตกต่างกับสาขาที่ถนนข้าวสารตรงที่จะเป็นร้านอาหารแบบเต็มรูปแบบและมีบาร์บริการเครื่องดื่ม

“การเปิดสาขาแรกในต่างประเทศที่อังกฤษ เพราะว่าอาหารเอเชียโดยเฉพาะอาหารไทยได้รับความนิยมอย่างมาก มีการเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาร้านพาคาต้าประมาณ 5-10 สาขาต่อปีในต่างประเทศ รวมเป็น 50 สาขาภายใน 5 ปี”

ส่วนธุรกิจอาหารที่จำหน่ายในร้านค้าปลีกนั้นจะเป็นอาหารพร้อมรับประทาน หรือ “รีดดี้ทูอีท” (Ready to eat) หรือ “อาร์ทีอี” ในเบื้องต้นนี้มีแบรนด์หลักคือ “สตาร์เชฟ” และ “เด็ดเอเซีย” โดย “สตาร์เชฟ” เป็นอาหารพร้อมรับประทาน แต่ละผลิตภัณฑ์จะมีเชฟที่มีชื่อเสียงเป็นผู้คิดค้นสูตรอาหารและเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ โดยเริ่มขายในประเทศไทยและแถบอินโดจีน วางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำ

ส่วนแบรนด์ “เด็ดเอเซีย” เป็นอาหารพร้อมรับประทานที่ถูกผลิตให้เหมาะสมกับคนที่อาจจะมีอาการแพ้อาหารบางชนิด เช่น ถั่ว กลูเต็น และอื่นๆ แต่ยังคงรสชาติอาหารที่ดั้งเดิม โดยจะมีสองรูปแบบให้เลือก ทั้งแบบที่มีเนื้อสัตว์กับที่ไม่มีเนื้อสัตวส์ เหมาะกับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ โดยเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลักเริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่นและอินเดีย นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาจะส่งจำหน่ายในประเทศสแกนดิเนเวีย และสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

สำหรับธุรกิจสินค้าเพื่อจำหน่ายในธุรกิจอาหาร หรือฟู้ดเซอร์วิสจะใช้แบรนด์ “ไฟน์ฟู้ด แคปปิตอล” ในการทำตลาดซึ่งจะเป็นอาหารพร้อมปรุง เหมาะสำหรับร้านอาหาร ผ้บ โรงแรม เพื่อนำไปประกอบการ หรือที่เรียกว่ากลุ่ม “ฮอรีกา” (HORECA : Hotel Restaurant Catering รวมทั้งแบบที่เป็นวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารทุกชนิด ตั้งแต่ซอสปรุงรส เส้น จนถึงภาชนะใส่อาหาร

นายธีระ กล่าวอีกว่า การรุกธุรกิจอาหารครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการกลับมาสู่ธุรกิจอาหารอีกครั้งของกลุ่มสิงห์ก็ได้หลังจากที่เคยรุกตลาดนี้มาแล้วในหลายสิบปีก่อนซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถรุกตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเครือข่ายของสิงห์ อีกทั้งเบียร์สิงห์ก็เป็นที่นิยมและรู้จักรวมทั้งช่องทางจำหน่ายจำนวนมากในต่างประเทศด้วย จึงทำให้สามารถเจาะตลาดได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นฮอรีกาที่มีลูกค้าเป็นร้านที่รับเบียร์สิงห์ไปขายอยู่แล้ว โดยเบียร์สิงห์มีขายแล้วในกว่า 50 ประเทศ

อีกทั้งในส่วนของอาหารพร้อมรับประทานในต่างประเทศเป็นตลาดที่ใหญ่มากทำให้มีโอกาสเติบโตอีกมาก เช่น ตลาดรวมแพกฟู้ดในประทศอังกฤษมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท สหรัฐอเมริกามากกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนในไทยยังน้อยมากเพียงประมาณ 5 พันล้านบาทเท่านั้น โดยคาดว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ในปีหน้าจะมีประมาณ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นในไทย 100 ล้านบาท ต่างประเทศ 400 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 5 ปีจะมีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น