อิมแพ็ค เผยภาพรวมธุรกิจเอฟแอนด์บีโตต่อเนื่อง 10-15% หลังบริการจัดเลี้ยงจากกลุ่มลูกค้างานแต่งงาน ปาร์ตี้บริษัท งานเลี้ยงนอกสถานที่ ช่วงปลายปี-ต้นปียอดจองเพิ่มเกือบ 50% อีกทั้งร้านอาหารเครืออิมแพ็ค ทั้งไทย จีนสไตล์ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไอริช ฟิวชัน ที่มีรวมกว่า 20 สาขา ยังคงสร้างรายได้ดี ล่าสุด ได้เปิดสาขาใหม่สุขุมวิท 33 สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นสึโบฮาจิ รวมถึงแต่งตั้งผู้อำนวยการเอฟแอนด์บีคนใหม่เพื่อดูแลแผนพัฒนาบุคลากร และพัฒนาเมนูอาหารรูปแบบ a la minute เพิ่มสไตล์ความหลากหลายรองรับการเปิด AEC ปลายปีนี้
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ IMPACT กล่าวว่า แม้ปีนี้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะมีความผันผวนถือเป็นช่วงขาลงของหลายๆ ธุรกิจ แต่สำหรับธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) หรือเอฟแอนด์บี อิมแพ็ค ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มจัดงานแต่งงาน ปาร์ตี้องค์กร และบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ซึ่งมียอดจองช่วงส่งท้ายปลายปีต่อเนื่องต้นปีหน้าทยอยเข้ามาจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากอิมแพ็คได้จัดโปรโมชัน สร้างสรรค์รูปแบบการจัดเลี้ยงที่มีความโดดเด่น และแตกต่าง มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย รวมถึงเพิ่มความคุ้มค่า และลูกเล่นในเรื่องของการตกแต่งสถานที่ การสร้างสรรค์รสชาติ และหน้าตาอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ เพื่อเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า หรือผู้บริโภค อีกทั้งสร้างความน่าสนใจพยายามเจาะกลุ่มลูกค้างานเปิดตัวสินค้า ปาร์ตี้ งานแต่งงานขนาดเล็ก รวมถึงการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนนอกสถานที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร้านอาหารในเครืออิมแพ็คที่มีทั้งร้านอาหารไทยมโนราห์ อาหารจีนสไตล์ฮ่องกง ได้แก่ ร้านฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ร้านฮ่องกง คาเฟ่ อาหารญี่ปุ่น ได้แก่ ร้านสึโบฮาจิ ร้านไทโชเต ร้านอิโตคาโจ อาหารฟิวชัน ได้แก่ ร้านเทอราซซ่า ร้านบริสโตร เดอ แชมเปญ อาหารเมนูเส้น ร้านนู้ดเดิ้ลเนชั่น และฟลาน โอเบรียนส์ ไอริช ผับ ซึ่งมีสาขารวมกันแล้วมากกว่า 20 สาขาทั้งใน และนอกพื้นที่ศูนย์ฯ ก็ยังคงสร้างรายได้เป็นอย่างดี ล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดสาขาใหม่สุขุมวิท 33 สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นสึโบฮาจิ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมีสาขามากถึง 6 สาขาแล้ว
นอกจากนี้ อิมแพ็ค ยังได้แต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มคนใหม่ ซึ่งมีความสามารถ และประสบการณ์ทำงานอย่างมากจากสิงคโปร์ มาช่วยดูแลแผนพัฒนาบุคลากร และพัฒนาเมนูอาหารในรูปแบบ a la minute ซึ่งมุ่งเน้นเพิ่มสไตล์ความหลากหลาย รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (AEC) ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายปี 2558 ทั้งหมดนี้น่าจะส่งผลให้ธุรกิจเอฟแอนด์บีของอิมแพ็คมีอัตราการเติบโตราว 10-15%
ด้าน นายลอว์เรนซ์ แทน ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ประจำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจเอฟแอนด์บี อิมแพ็ค จากนี้ คือ การเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเออีซี และก้าวสู่ความเป็นสากล จึงได้วางแผนงานพัฒนาเมนูอาหารในรูปแบบ a la minute หรือการมุ่งเน้นเพิ่มสไตล์การบริการของอาหารให้หลากหลายจากเดิม รวมถึงวางแผนการพัฒนา เรื่องบุคลากร การเลือกบุคลากรให้มีความเหมาะสมต่องาน สร้างระบบการทำงานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ เพราะเทรนด์การจัดเลี้ยงปัจจุบันนั้นเน้นสไตล์ความหลากหลายแตกต่างไม่ซ้ำกัน
ทั้งนี้ จากรายงานไตรมาสที่ผ่านมา เอฟแอนด์บี อิมแพ็ค สามารถทำรายได้กว่า 102 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 94 ล้านบาท อีกทั้งช่วงปลายปีที่มียอดจัดงานเลี้ยง แต่งงาน เข้ามาจำนวนมาก จะส่งผลให้รายได้รวมของเอฟแอนด์บีอิมแพ็คสิ้นสุดปีงบประมาณ 2558 เป็นไปตามเป้าไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท หรือประมาณ 6% ของรายได้รวมขององค์กร