ฟันธงทีวีดิจิตอลไปไม่รอดทั้ง 24 ช่อง “เซ้นส์” พร้อมอัดเงินลงทุนปีหน้ากว่า 400 ล้านบาทผุดสตูดิโอรับผลิตรายการรวม 12 รายการ เลือกตอบโจทย์ยักษ์ใหญ่ เตรียมส่งรายการใหม่ลง “ไทยรัฐ ทีวี” เป็นรายการที่ 4 จากปัจจุบันมี 8 รายการ คาดสิ้นปีมีรายได้ 200 ล้านบาท
นายวราวุธ เจนธนากุล ประธานกรรมการ บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมทีวีดิจิตอลปัจจุบันยังมีความไม่ชัดเจนหลายเรื่อง ผู้ชมหาช่องรายการไม่เจอ ช่องทางการเข้าถึงคนยังมีน้อย การขายโฆษณายังทำได้ยาก เนื่องจากผู้ชมยังน้อย ทำให้รูปแบบรายการที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะจ้างผลิตและรีรันเป็นส่วนใหญ่ แต่ในอนาคตเชื่อว่าโมเดลการบริหารจัดการและการนำเสนอจะกลับมาเหมือนกับฟรีทีวีในปัจจุบันคือ เข้าสู่การผลิตรายการแบบ “ไทม์แชริ่ง” ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วทั้ง 24 ช่องอาจจะประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่ช่องก็ตาม
ในส่วนของ “เซ้นส์” ถือเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ มีจุดแข็งที่การพัฒนารูปแบบรายการให้เหมาะสมกับทางสถานีโทรทัศน์และผู้ชม อีกทั้งยังมีพาร์ตเนอร์ฟอร์แมตรายการจากต่างประเทศ ทั้งจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย เช่น “ฟรี เมนทอล” และ “ทีวี โตเกียว” เป็นต้น ส่งผลให้มีโมเดลรายการจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมาปรับให้เข้ากับคนไทยให้ได้รับชมกัน
ปัจจุบัน “เซ้นส์” มีจำนวนรายการทั้งสิ้น 8 รายการ คือ 4 รายการทางฟรีทีวีระบบแอนะล็อก ได้แก่ “Honey Moon น้ำผึ้งพระจันทร์” ช่อง 5 (รีรัน ช่อง 3SD), “The Money Drop ไทยแลนด์” ช่อง 7, “นักคิด ตะลุยอาเซียน ASEAN Together” และ “Step Right Up ใครเก่ง ใครได้” ช่อง 9 โดยอีก 4 รายการที่เหลือออกอากาศทางทีวีดิจิตอลในรูปแบบจ้างผลิต ได้แก่ “บ้านพระรามสี่” ช่อง 3SD, “ตีเนียน”, “ลับ ลวง หลอก” และ “รักเอย” ออกอากาศ ช่องไทยรัฐ ทีวี ขณะที่ปัจจุบันรายการ “The Money Drop ไทยแลนด์” มีเรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 8.6 และรายการ “ตีเนียน” กับ “ลับ ลวง หลอก” เป็นรายการที่มีเรตติ้งอยู่ในอันดับต้นๆ ของช่องไทยรัฐ ทีวี
ล่าสุดในช่วงปลายปีนี้จนถึงปีหน้าบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนรวมกว่า 400 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 200 ล้านบาท สำหรับสร้างออฟฟิศแห่งใหม่และสตูดิโอ 3 แห่งแบบครบวงจรรองรับการผลิตรายการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และอีก 200 กว่าล้านบาทที่เหลือสำหรับการพัฒนารายการใหม่อีก 5 รายการคือ 150 ล้านบาทสำหรับรายการปกติ 3 รายการ ประกอบด้วย ซิตคอม จะออกอากาศทางช่อง 7 รายการเรียลิตีโชว์สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี ทางช่อง 3 แอนะล็อก และอีก 1 รายการจะเป็นรายการที่ 4 ที่ผลิตให้กับทางช่องไทยรัฐ ทีวี โดยอีก 60 ล้านบาทจะผลิตรายการรูปแบบ “ซีซันนัล โปรแกรม” ให้ช่อง 3 แอนะล็อก และช่อง 7
“แผนการพัฒนารูปแบบรายการสำหรับทีวีดิจิตอลนั้นจะเน้นนำเสนอแก่สถานีที่มีความแข็งแกร่งและเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอยู่แล้ว เช่น ช่อง 3SD, ไทยรัฐทีวี และแกรมมี่ รวมถึง 2 ช่องที่กำลังคุยกันอยู่ คือ ช่องวัน และจีเอ็มเอ็ม แชนแนล โดยมองว่าแม้การเริ่มต้นจะเป็นลักษณะจ้างผลิต แต่ในอนาคตหากเรตติ้งทางทีวีดิจิตอลดีขึ้นจะนำไปสู่รูปแบบการผลิตแบบไทม์แชริ่งต่อไปได้”
นายวราวุธกล่าวต่อว่า จากแผนการดำเนินงานที่วางไว้มองว่าภายในปี 2558 บริษัทจะมีรายการที่ผลิตทั้งสิ้นไม่เกิน 12 รายการ หรือมีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น ฟรีทีวีแอนะล็อก 200 ล้านบาท และทีวีดิจิตอล 50-80 ล้านบาท ที่เหลือมาจากอีเวนต์และอื่นๆ ส่วนในปีนี้เดิมตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 250 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงน่าจะทำได้เพียง 200 ล้านบาทเท่าปีก่อน โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 90% มาจากทีวี และ 20% มาจากอีเวนต์
