ผุด “แอมพาร์ค” คอมมูนิตีกลางเมือง “อิมพีเรียลแลนด์ กรุ๊ป” มั่นใจทำเล

“อิมพีเรียลแลนด์ กรุ๊ป” ทุ่ม 700 ล้านบาทรุกคอมมูนิตีมอลล์ “สามย่าน” กลางใจเมือง ปั้น “แอมพาร์ค จุฬา” แจ้งเกิด มั่นใจทำเลมีศักยภาพสูง คาดคืนทุนใน 5 ปี

นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ ยูนิแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณกว่า 700 ล้านบาทในการก่อสร้างและลงทุนโครงการคอมมูนิตีมอลล์ชื่อว่า “แอมพาร์ค จุฬา” (I’m Park Chula) ตั้งอยู่บนถนนจุฬาฯ ซอย 22 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทฯ ชนะการประมูลมาจาก สำนักทรัพย์สินของจุฬาฯ ซึ่งถือเป็นที่ดินทำเลทองแห่งหนึ่งใจกลางเมืองที่มีการแข่งขันกันประมูลที่ดินแปลงนี้จากผู้ประกอบการรายใหญ่หลายราย แต่ในที่สุดบริษัทฯ ซึ่งเป็นในเครือของ “อิมพีเรียลแลนด์ กรุ๊ป” เป็นผู้ชนะการประมูลพื้นที่นี้

โครงการดังกล่าวเป็นอาคารสูง 5 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 2 หมื่นตารางเมตร แบ่งเป็น 1. โซนคอมมูนิตีมอลล์ ร้านอาหารและร้านค้า พื้นที่ 35-170 ตารางเมตร จำนวน 30 ร้านค้า, ซูเปอร์มาร์เกต พื้นที่ 220 ตารางเมตร จำนวน 1 ร้านค้า, ธุรกิจบริการ พื้นที่ 5-15 ตารางเมตร จำนวน 20 ร้านค้า 2. โซนชอปปิ้งพลาซา ร้านค้าแบรนด์เนม พื้นที่ 11-43 ตารางเมตร จำนวน 15 ร้านค้า, ร้านค้าปลีกต่างๆ พื้นที่ 5-21 ตารางเมตร จำนวน 740 ร้านค้า, สินค้าอาหาร พื้นที่ 5-32 ตารางเมตร จำนวน 50 ร้านค้า รวมทั้งสิ้น 186 ร้านค้า

ปัจจุบันมีร้านค้าเปิดบริการแล้วกว่า 95% เช่น ร้านสตาร์บัคส์ ร้านโอบองแปง เป็นต้น โดยแบ่งชั้น G เป็นร้านเสื้อผ้า อาหารว่าง ของฝาก ส่วนชั้น 1-4 เป็นร้านอาหารและโรงเรียนสอนภาษา ร้านกีฬา คิดค่าเช่าประมาณ 1,200 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน คาดถึงจุดคุ้มทุนภายในเวลา 5 ปี โดยทำสัญญาเช่าจากจุฬาฯ นาน 30 ปี จ่ายค่าที่ดินรวม 300 ล้านบาท

“บริเวณสามย่านที่เป็นที่ตั้งของโครงการนี้เป็นแหล่งธุรกิจใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง อยู่ใจกลางเมืองสะดวกต่อการเดินทาง เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ กลุ่มคนที่มีเงินเดือนสูงและมีความต้องการสินค้าและบริการอันหลากหลาย ทั้งยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล และโรงแรมชั้นนำหลายแห่ง ทำให้มีนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก”

จุดเด่นของทำเลที่ตั้ง “แอมพาร์ค” คือ ในย่านรัศมี 3-5 กิโลเมตรมีนิสิตนักศึกษาจำนวนมาก มีรถไฟฟ้าบีทีเอสและเอ็มอาร์ที รวมถึงทางด่วนหัวลำโพงซึ่งอยู่ใกล้โครงการเพียง 1 กิโลเมตร สัดส่วนกลุ่มเป้าหมายโครงการจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา 50% กลุ่มข้าราชการและคนทำงานใกล้เคียง 15% กลุ่มครอบครัวที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง 15% กลุ่มนักท่องเที่ยว 15% และกลุ่มที่ต้องใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ 5% ซึ่งจากข้อมูลพบว่ากว่า 40% ของกลุ่มเป้าหมายในบริเวณสามย่านมีฐานเงินเดือนรายได้ 2-7 หมื่นบาทต่อเดือน