การบินไทยย้าย “ไทยสมายล์” ปักธงดอนเมือง ชูบริการเหนือโลว์คอสต์ โปรโมชันราคารวมทุกอย่างไม่แพง อัดโปรโมชันถี่ คาดชิงส่วนแบ่งตลาด 10-20% ระบุค่าใช้จ่ายรวมหลังย้ายจะลดลง 4-5% ขณะที่ผู้โดยสารจะสะดวกมากขึ้น เครื่องบินไม่ต้องเสียเวลาแท็กซี่รอบินขึ้นนาน เร่งประเมินการเชื่อมต่อไฟลต์กับการบินไทยจัดเส้นทางย้ายชุดใหญ่ ต.ค.นี้ ส่วนภาพรวมรายได้ปี 57 คาดต่ำเป้า 20% เหตุผลกระทบการเมืองต้นปี
ร.อ.ท.สุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การย้ายไทยสมายล์แอร์เวย์จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป ใน 3 จุดบินภายในประเทศเป้าหมายสำคัญคือ จะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศอยู่ระหว่างจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อย้ายอีกครั้งในตารางบินฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2557 โดยเที่ยวบินที่เหลือยังคงให้บริการที่สุวรรณภูมิตามปกติ โดย 3 จุดบินที่ย้ายมาก่อนนี้ได้พิจารณาแล้วว่าไม่กระทบต่อการที่ผู้โดยสารจะเดินทางต่อเชื่อมกับเที่ยวบินของการบินไทยที่สุวรรณภูมิ (Connecting Flight) โดยไทยสมายล์จะจับมือกับนกแอร์ร่วมกันสร้างเครือข่ายเส้นทางการบินเพื่อให้เป็นเครื่องมือการตลาด คาดว่าเฉพาะเที่ยวบินของไทยสมายล์จะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดได้ประมาณ 10-20% โดยไทยสมายล์จะไม่เน้นแข่งเรื่องราคามากนัก โดยจะเน้นลูกค้าที่มองบริการที่คุ้มค่ามากกว่าราคาถูก ซึ่งเชื่อว่าลูกค้ามีความหลากหลายในการเลือกใช้บริการและเริ่มเข้าใจบริการของโลว์คอสต์แล้ว ไม่ได้มีแค่ต้องการราคาถูกอย่างเดียว
“การปรับยุทธศาสตร์ย้ายไทยสมายล์มาดอนเมืองนั้นมีแนวคิดมานานแล้ว ขณะที่การบินไทยมีแผนที่จะฟื้นฟูบริษัทด้วย จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะปักธงที่ดอนเมืองแล้ว ถ้าไม่ตัดสินใจย้ายมาดอนเมืองวันนี้ ผู้โดยสารก็จะยิ่งไปใช้บริการสายการบินอื่นมากขึ้น โดยปลายปี 57 จะประเมินผลได้ชัดเจนขึ้น มั่นใจว่าสายการบินที่ครองตลาดที่ดอนเมืองอยู่ในตอนนี้จะมีผลกระทบแน่นอน”
ร.อ.ท.สุรพลกล่าวว่า สนามบินดอนเมืองมีศักยภาพมากจึงเป็นโอกาส เนื่องจากขนาดไม่ใหญ่มาก การเคลื่อนไหวเข้าออกของผู้โดยสารใช้เวลาน้อย ส่วนเครื่องบินใช้เวลาแท็กซี่อยู่บนพื้นไม่เกิน 10 นาที ใช้น้ำมันน้อยลง ขณะที่สุวรรณภูมิเครื่องบินใช้เวลาแท็กซี่ 20-30 นาที นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายด้านปฏิบัติการต่างๆ เช่น บริการภาคพื้น ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 10% จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด คาดว่าจะลดลงประมาณ 4-5% ด้วย
นายวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการหัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจคือ การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิล่าช้าจนสนามบินเกิดความคับคั่งไม่สะดวก ส่วนดอนเมืองกลับมีการพัฒนาที่รวดเร็วกว่าแถมยังมีโปรโมชันลดราคาจูงใจสายการบินอีก โดยมั่นใจว่าค่าใช้จ่ายในด้านการปฏิบัติการ (Operating Cost) ในภาพรวมจะลดลงอย่างมาก ซึ่งจะพยายามจับมือกับผู้ให้บริการภาคพื้น (Ground Handing) เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย ยืนยันว่าบริการของไทยสมายล์เป็น Light Premium มีบริการที่มากกว่าโลว์คอสต์ ขณะที่ราคาที่รวมทุกอย่างแล้วไม่แพงมาก ลูกค้าจะมีความคุ้มค่า โดยเร็วๆ นี้จะให้บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารลงทุนประมาณ 3-4 ล้านบาทด้วย
โดยตามแผนเดิมคาดว่าปี 2557 ไทยสมายล์จะมีผู้โดยสารรวม 3 ล้านคน มีรายได้เกือบ10,000 ล้านบาท แต่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองช่วงต้นปี คาดว่าผู้โดยสารและรายได้จะต่ำกว่าประมาณการณ์ประมาณ 20%
โดยไทยสมายล์แอร์เวย์จะมี 3 เส้นทางบิน ไป-กลับ ย้ายมาให้บริการที่ดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป วันละ 8 เที่ยวบิน ใน 3 เส้นทาง คือเส้นทางไป-กลับ ดอนเมือง-เชียงใหม่ วันละ 3 เที่ยวบิน เส้นทางไป-กลับ ดอนเมือง-ขอนแก่น วันละ 3 เที่ยวบิน เส้นทางไป-กลับ ดอนเมือง-ภูเก็ต วันละ 2 เที่ยวบิน โดยจัดโปรโมชันบัตรโดยสารราคาพิเศษเที่ยวเดียวบินสู่เชียงใหม่ หรือขอนแก่น ราคาเริ่มต้น 990 บาท และบัตรโดยสารราคาพิเศษเที่ยวเดียวบินสู่ภูเก็ต ราคาเริ่มต้น 1,090 บาท และจะออกโปรโมชันเป็นระยะๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจและเพิ่มทางเลือกในการใช้บริการ
ปัจจุบันไทยสมายล์มีเครื่องบิน 14 ลำ ตามแผนภายในปี 57 จะมีเพิ่มเป็น 17 ลำ และปี 58 เพิ่มเป็น 20 ลำ ให้บริการ 8 จุดบินในประเทศ และ 9 จุดบินระหว่างประเทศ ตามแผนเที่ยวบินที่จะย้ายมาที่ดอนเมืองจะพิจารณาการให้บริการของการบินไทยประกอบด้วย โดยจะคงเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารต่อเครื่องการบินไทยไว้ที่สุวรรณภูมิ เช่น นิวเดลี, ไฮเดอราบาด ซึ่งมีสัดส่วนของผู้โดยสารต่อเครื่องไปยังฮ่องกง และออสเตรเลีย ประมาณ 60-70% ต่อลำ ส่วนเที่ยวบินแบบจุดต่อจุดที่มีผู้โดยสารต่อเครื่องน้อยจะย้ายมาดอนเมือง เช่น มาเก๊า เป็นต้น