“พาณิชย์” เผยอินเดียปรับโครงสร้างพื้นฐาน ชี้ไทยมีโอกาสเข้าไปทำการค้า การลงทุนเพิ่มขึ้น

สนย.เผยไทยมีโอกาสทำการค้า การลงทุนในอินเดีย หลังรัฐบาลใหม่เดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมระบบลอจิสติกส์กับอาเซียน เผยก่อสร้าง เครื่องไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เครื่องจักรการเกษตร และอาหาร มีโอกาสสูง

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนย.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลใหม่ของอินเดีย นำโดยนายนเรนทรา โมดี ที่ชนะการเลือกตั้งเข้ามา ได้กำหนดนโยบายในการฟื้นฟูประเทศครั้งใหญ่ที่เน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟ และโครงการด้านพลังงาน ทั้งถ่านหินและก๊าซ และยังสานต่อนโยบาย Look East Policy ที่เน้นการเชื่อมโยงระบบลอจิสติกส์กับอาเซียน เพื่อดึงดูดการลงทุนสู่ภาคอีสานของอินเดียที่ยังยากจน และเชื่อมโยงการค้าการลงทุนกับอาเซียนโดยการร่วมพัฒนาเส้นทางในพม่าเชื่อมกับอาเซียน

ทั้งนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจในหลายๆ ด้านของอินเดีย ถือเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจไทยหลายสาขา ทั้งในด้านการทำการค้า การเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจการก่อสร้างวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักรกลการเกษตร และอาหารแปรรูป เป็นต้น

“อินเดียเป็นตลาดที่น่าสนใจด้วยการขยายตัวของจีดีพีใกล้เคียงกับจีนที่ระดับ 10% แต่ผลจากการที่อินเดียขาดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง และระเบียบราชการที่ล่าช้า ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมที่ควรจะเป็นภาคที่ใหญ่สำหรับอินเดียเพื่อสร้างงานจำนวนมาก กลับมีส่วนเพียง 15% ของจีดีพี ขณะที่ด้านพลังงานก็ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ไฟฟ้าดับบ่อย และอาหารยังไม่เพียงพอกับประชากรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆ จะเป็นโอกาสในการเข้าไปทำการค้า การลงทุนของไทย”

นางอัมพวันกล่าวว่า เชื่อว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวสูงขึ้น หลังจากที่นายโมดีเข้ามาบริหารประเทศ โดยมีแนวโน้มที่นายโมดีจะนำ “คุชราตโมเดล” ที่นายโมดีเคยเป็นมุขมนตรีของรัฐนี้มาก่อน และสามารถผลักดันให้รัฐนี้ก้าวขึ้นเป็นรัฐชั้นนำของอินเดียจนทำให้คุชราตมีการเติบโตจีดีพีสูงเป็น 2.5 เท่าของจีดีพีทั้งประเทศ ด้วยนโยบายเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาชุมชนเมือง และขจัดกฎระเบียบที่ยุ่งเหยิง มาปรับใช้กับการบริหารประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้อินเดียมีการเติบโตมากขึ้น

ปัจจุบันอินเดียเป็นคู่ค้าอันดับ 16 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในเอเชียใต้ โดยการค้าไทย-อินเดีย ปี 2556 มีมูลค่า 8,685 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 1,679 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปอินเดีย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รถยนต์และอุปกรณ์ เครื่องจักรกล เครื่องปรับอากาศ ยางพารา และเครื่องคอมพิวเตอร์