ศรีไทยฯ เผยยอดขายในไตรมาส 2/2557อยู่ที่ 2.45 พันล้านบาท โตขึ้น4.7% มั่นใจทั้งปีโตตามเป้าหมาย 12% ชี้ยอดขายที่โตขึ้นเป็นผลจากการทำตลาดส่งออกธุรกิจบรรจุภัณฑ์และเมลามีน หลังจากตลาดในประเทศหด เล็งตั้งโรงงานใหม่ในเวียดนามรองรับตลาดเออีซี พร้อมทั้งเข็นบริษัทย่อยเข้าตลาดหุ้นในปี 59
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) (SITHAI) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 ว่า บริษัทฯ มียอดขายรวม 2.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2.34 พันล้านบาท และมีกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ประมาณ 19% เนื่องจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ฝาปิดขวดยังเติบโตได้ดี แม้ว่าตลาดเครื่องใช้ในครัวเรือนในประเทศไทยจะชะลอตัวลงก็ตาม
มั่นใจว่าทั้งปี 2557 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 9.4 พันล้านบาท หรือขยายตัวคิดเป็น 12% ตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ แม้ว่าครึ่งปีแรกตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนในประเทศโดยเฉพาะเมลามีนหดตัวลงถึง 20% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงชะลอตัวอยู่ต่อเนื่อง และปัญหาการเมืองในประเทศ แต่บริษัทหันมาทำตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้น
โดยในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ คาดว่ามียอดขายโตขึ้นอย่างมาก โดยไตรมาส 3 นี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2.70 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2.32 พันล้านบาท และไตรมาส 4/2557 จะมียอดขายอยู่ที่ 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2.50 พันล้านบาท สาเหตุที่ยอดขายโตขึ้นในครึ่งปีหลังมากเนื่องจากรับรู้รายได้จากการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเมลามีนด้วย
นายสนั่นกล่าวถึงแผนการลงทุนในต่างประเทศรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ว่า บริษัทฯ ได้รุกตลาดเออีซีโดยการเจาะตลาดขายสินค้า และสร้างโรงงานในประเทศเพื่อนบ้านมาหลายปี ซึ่งธุรกิจในต่างประเทศนี้เองที่มีส่วนสำคัญในการพยุงไม่ให้ยอดขายบริษัทฯ ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ที่สถานการณ์การเมืองไทยวุ่นวายจนกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ แม้ว่าปัจจุบันคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเข้ามาบริหารประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ก็ไม่ทรุดลงไปกว่าเดิม แต่เชื่อว่าในปี 2558 เศรษฐกิจในประเทศไทยจะดีขึ้นแต่คงเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการหาที่ดินในการสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม หลังจากโรงงานที่โฮจิมินห์เดินเครื่องจักรเต็มที่ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ในปลายปีนี้หรือต้นปี 2508 ใช้เงินลงทุน 250-300 ล้านบาท
จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกและเมลามีนที่เวียดนามโตอย่างรวดเร็วเฉลี่ยปีละ 30-40% ทำให้มั่นใจว่าตลอด 5 ปีข้างหน้าธุรกิจของบริษัทในเวียดนามจะโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี ทำให้บริษัทฯ ต้องใช้เงินลงทุนมาก ซึ่งจะเป็นภาระของบริษัทแม่ เพราะบริษัทศรีไทย (เวียดนาม) นั้น SITHAI ถือหุ้น 100% ดังนั้นจึงมีนโยบายที่จะนำบริษัท ศรีไทย (เวียดนาม) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2559 โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งตั้ง บล.เอเซียพลัสเป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้วย
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและฝาปิดขวดที่อินโดนีเซียนั้น คงต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากจำนวนพนักงานบริษัทฯ ไม่เพียงพอเพราะเพิ่งเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตเมลามีนในอินเดียที่จะแล้วเสร็จในปลายปี 2557 ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการนำสินค้าที่ผลิตได้ในไทยส่งออกไปยังอินโดนีเซียแทน
นายสนั่นกล่าวถึงความคืบหน้าการตั้ง Outlet ตรงข้ามนิคมฯ อมตะ นครที่ชลบุรีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2558 ใช้เงินลงทุนปรับปรุงคลังสินค้าเดิมประมาณ 60-70 ล้านบาท โดย Outlet ดังกล่าวจะเน้นจำหน่ายสินค้าในกลุ่มศรีไทยเป็นส่วนใหญ่ 70% ที่เหลือเป็นสินค้าจากภายนอก โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเปิดร้านอาหารหรือภัตตาคาร สามารถเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ใน Outlet ที่มีราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จากธุรกิจ Outlet ในปีแรกประมาณ 100 ล้านบาท หากธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จก็จะขยายเปิด OUTLET 4 มุมเมือง
