“พาณิชย์” รับลูก คสช.ดันราคาข้าวเปลือกนาปี 2557/58 ไม่ต่ำกว่าตันละ 8,500 บาท งัดมาตรการดูแลทั้งจัดตลาดนัด และให้โรงสีซื้อเก็บ เผยแม้ชาวนาจะไม่ร่ำรวย แต่รับรองอยู่ได้ ไร้ปัญหาเหมือนอดีต พร้อมเดินหน้าลดราคาอาหารจานด่วน ส่งวัตถุดิบป้อนร้านอาหารมิตรธงฟ้า เพื่อดึงราคาลงมา
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ รักษาการอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมมาตรการดูแลรักษาระดับราคาข้าวเปลือกนาปี 2557/58 ซึ่งเป็นข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ที่จะออกมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.แล้ว โดยจะรักษาระดับราคาให้อยู่ที่ประมาณตันละ 8,500 บาท ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการให้ราคาข้าวเปลือกเจ้าในตลาดอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม เพื่อให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่คุ้มกับต้นทุนการผลิตและมีรายได้พอเลี้ยงชีพ
ทั้งนี้ มาตรการในการดูแลราคาข้าวเปลือก หากแนวโน้มราคาข้าวเปลือกอ่อนตัวลงมา จะมีการจัดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือกโดยให้โรงสีมาซื้อข้าวเปลือกกับเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าว และการให้โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกในราคานำตลาดประมาณตันละ 100-200 บาท ในช่วงเดือน พ.ย. 2557 - ม.ค. 2558 และเก็บรักษาสต๊อกไว้ 3-6 เดือน หรือตั้งแต่ พ.ย.2557 - ก.ค. 2558 ซึ่งโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับซื้อ รัฐจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการชดเชยดอกเบี้ยผ่านธนาคารพาณิชย์ที่โรงสีเป็นลูกค้าตามมูลค่าข้าวเปลือกที่รับซื้อมาในอัตรา 3% ต่อปี นับตั้งแต่วันที่กู้
ขณะเดียวกันจะให้มีการตรวจสต๊อกข้าวของผู้ส่งออก เพราะตามพ.ร.บ.การค้าข้าว ผู้ส่งออกจะต้องสำรองสต๊อกข้าวไม่ต่ำกว่า 500 ตัน ซึ่งน่าจะช่วยยกระดับราคาข้าวเปลือกในตลาดให้ดีขึ้น แต่คงไม่ทบทวนการเพิ่มสต๊อกสำรวจของภาคเอกชน เพราะจะเป็นภาระด้านต้นทุนให้กับผู้ประกอบการมากเกินไป
“มาตรการที่ออกมาจะเน้นการดูแลราคาข้าวเปลือกเจ้า เพราะมีปริมาณมาก ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะมีปริมาณน้อย โดยเชื่อว่าชาวนาจะขายข้าวได้ในราคาที่เหมาะสม แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ก็จะไม่มีปัญหาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังเชื่อว่าแนวโน้มราคาข้าวในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มสูงขึ้น จากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งอาจเป็นปีทองของข้าวไทยอีกครั้งก็ได้” นางจินตนากล่าว
นางจินตนากล่าวว่า สำหรับการดูแลค่าครองชีพ กรมฯ ได้เตรียมดำเนินโครงการลดราคาอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) ให้ประชาชน ตามนโยบายของ คสช.ที่ต้องการลดค่าครองชีพให้ประชาชน หลังจากที่ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ออกมาตรการลดค่าครองชีพไปแล้วหลายโครงการ เช่น ขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคตรึงราคาสินค้าเป็นระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุดเดือน พ.ย.นี้ รวมถึงจัดงานธงฟ้าและมหกรรมขายสินค้าราคาประหยัดทั่วประเทศ ตลอดเดือน ก.ค.-ก.ย. 2557
โดยแนวทางดำเนินการจะใช้เครือข่ายร้านอาหารมิตรธงฟ้าที่มีอยู่หลายพันรายทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ โดยกรมฯ จะจัดหาวัตถุดิบราคาถูกให้กับร้านค้าเหล่านี้ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช เพื่อให้ร้านค้าสามารถขายอาหารปรุงสำเร็จได้ในราคาต่ำกว่าราคาแนะนำที่กำหนด หรือขายต่ำกว่าจานละ 30-35 บาท รวมถึงจะขอความร่วมมือร้านอาหารในฟูดคอร์ตของห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และร้านค้าในตลาดสดให้ความร่วมมือด้วย