ASTVผู้จัดการรายวัน - เปิด AEC ปี 2558 ธุรกิจ “ลอจิสติกส์” แข่งขันหนักผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัว เสริมแกร่ง รับศึกหนัก ทั้ง “ไทเกอร์-อีทีซี” เร่งลงทุนทั้งขยายคลังสินค้า เพิ่มรถขนส่ง ร่วมทุนต่างชาติ ปูฐานต่างประเทศ
นายวิเชียร กันตถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์ จำกัด ในเครือสหพัฒน์ ผู้ให้บริการลอจิสติกส์ของไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 บริษัทฯ จึงต้องสร้างความแข็งแกร่งด้วยการลงทุนขยายศักยภาพมากขึ้น รวมทั้งการขยายไลน์บริการต่างๆ และการลงทุนกับต่างประเทศเพื่อสร้างเครือข่าย เพราะเมื่อเปิด AEC ธุรกิจลอจิสติกส์จะแข่งขันรุนแรง เพราะมีรายใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอีกหลายรายทั้งๆ ที่ในประเทศไทยก็มีผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ระดับอินเตอร์มากมายอยู่แล้ว
“ถ้าเราเตรียมพร้อมไว้ก่อนเราก็จะได้เปรียบในฐานะที่เป็นทั้งคนท้องถิ่นที่รู้จักเส้นทางดีรวมไปถึงการลงทุนต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ ระบบ บุคลากร และรถขนส่ง เนื่องจากเรื่องของลอจิสติกส์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน เพราะหมายถึงการจัดการ การวางระบบ การขนส่ง การบริหารคลังสินค้า การจัดการสต๊อก การจัดระบบ การขนถ่ายสินค้า และอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องมีการเตรียมพร้อม ไม่ใช่แค่รถส่งของเท่านั้น” นายวิเชียรกล่าว
“ไทเกอร์ฯ” ลงทุนเพิ่มในไทย-พม่า
ขณะนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาในการเข้าถือหุ้นกับพันธมิตร ห้างหุ้นส่วนจำกัดเออีซี ลอจิสติกส์ เพราะเป้าหมายของพันธมิตรรายนี้ต้องการรองรับการบริการในตลาด AEC ตามนโยบายของบริษัทฯ เช่นกันเป็นหลัก เพราะ AEC เป็นตลาดที่ใหญ่ มีประชากรรวมกว่า 600 ล้านคน การค้าขายในย่านนี้ก็จะเติบโตมากขึ้นส่งผลให้ธุรกิจลอจิสติกส์เป็นสิ่งที่ต้องการมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท เอ็มเค กรุ๊ป ของพม่า ในการจัดตั้ง บริษัท ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์ (เมียนมาร์) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยฝ่ายไทยถือหุ้น 60% และเอ็มเคกรุ๊ปพม่าถือหุ้น 40% ซึ่งพันธมิตรรายนี้เป็นเทรดดิ้งให้กับเครือสหพัฒน์มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยขณะนี้พม่าถือได้ว่ายังไม่มีบริษัทที่ทำลอจิสติกส์แบบครบวงจรเลยก็ว่าได้ เบื้องต้น 2 ปีแรกจะให้บริการธุรกิจของเอ็มเคกรุ๊ปก่อน คาดหวังรายได้ 10 ล้านบาท หลังจากนั้นจะเริ่มขยายการให้บริการกับบริษัทฯ นอกกลุ่มเอ็มเค
ส่วนในประเทศไทยจะลงทุนเพิ่มแวร์เฮาส์อีก 2 แห่ง มูลค่าก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท พื้นที่แวร์เฮาส์ประมาณ 40,000 ตารางเมตร จากเดิมที่มีคลังสินค้าที่ถ่ายสินค้า 8 แห่ง รวมพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร ย่านถนนพระราม 3 ทำให้สามารถเปิดให้บริการขนส่งแบบเอ็กซ์เพรสที่ส่งของรวดเร็วทั่วประเทศ โดยลงทุน 10 ล้านบาท ซื้อรถขนส่งขนาดเล็กประมาณ 15 คัน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นร้านค้าย่อยและธุรกิจเอสเอ็มอี โดยคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ 400 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีที่แล้ว 360 ล้านบาท โดยสัดส่วนลูกค้าในเครือสหพัฒน์ 20% อีก 80% เป็นลูกค้านอกเครือสหพัฒน์
ETG พร้อมเปิดตลาด “ลาว”
นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG เปิดเผยว่า หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 แล้ว มั่นใจว่าธุรกิจลอจิสติกส์จะเป็นกลไกสำคัญของการทำธุรกิจ จึงเป็นเหตุผลที่ต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้านบริการ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจะต้องก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของผู้ประกอบการธุรกิจลอจิสติกส์ในประเทศไทย โดยมีรายได้ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท และมีลูกค้าระดับโลกประมาณ 25 ราย
บริษัทมีแผนลงทุนปีละ 120-150 ล้านบาท ทั้งการเพิ่มรถขนส่ง การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาเทคโนโลยี โดยปี 2557 ลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อซื้อรถขนส่งประมาณ 20 คัน และจะลงทุนอีก 100 ล้านบาทขยายคลังสินค้าเพิ่มอีก 1 แห่งจากเดิมมีคลังสินค้าแล้ว 6 แห่งคือบริเวณถนนบางนา-ตราด 2 แห่ง อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี 1 แห่ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง จ.นครศรีธรรมราช 1 แห่ง และ จ.เชียงใหม่ 1 แห่ง
สำหรับคลังสินค้าแห่งใหม่จะก่อสร้างในพื้นที่ชายแดนติดกับ สปป.ลาว โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะเลือกพื้นที่ในจังหวัดใด ระหว่างอุบลราชธานี อุดรธานี และหนองคาย เพื่อใช้เป็นฐานในการกระจายสินค้าเข้าไปยัง สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรผู้ร่วมทุนทั้งในพื้นที่ฝั่งไทยและ สปป.ลาว แต่ถ้าไม่ลงตัวก็คงจะลงทุนเอง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558
สำหรับผลประกอบการของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้ 700 ล้านบาท เติบโตจากปี 2556 ประมาณ 6.7% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมาย 1,500 ล้านบาท หรือเติบโต 5% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,600 ล้านบาท หรือประมาณ 10% เพราะปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมา
“กรมส่งเสริมการค้าฯ” เร่งนโยบายลดต้นทุนธุรกิจลอจิสติกส์
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กรมฯ มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและนำรายได้เข้าประเทศ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เนื่องจากลอจิสติกส์ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญของทุกธุรกิจประมาณ 14% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) กรมฯ จึงมีนโยบายที่ทำให้ลดลงเหลือ 10% เพื่อให้ทุกธุรกิจสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างมีศักยภาพ อีกทั้งเมื่อเปิด AEC การแข่งขันในธุรกิจลอจิสติกส์จะยิ่งรุนแรงขึ้น เพราะคาดว่าจะมีผู้ประกอบการจากต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการลอจิสติกส์ไทยจึงต้องเร่งปรับตัวให้เร็วที่สุด
ล่าสุดกรมฯ ได้เปิดโครงการ “ลดต้นทุนลอจิสติกส์สำหรับผู้ส่งออก” ประจำปี 2557 เพื่อเป็นแนวทางการบริหารต้นทุนด้านลอจิสติกส์การค้าที่ได้ประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศและผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์รวม 117 รายลดต้นทุนได้กว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการจำนวน 30 รายภายในระยะ 3 เดือน